KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 3992|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

รวม 25 ศัพท์อังกฤษบอกเพศสภาพ (บางคำอาจไม่เคยไม่ยินมาก่อน)

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2016-1-25 20:30



      sex กับ gender ว่าเป็น "เพศ"ที่ต่างกันยังไง sex คือเพศทางกายภาพตั้งแต่เกิดของเราส่วน gender หมายถึงเพศตามสภาพจิตใจของคนนั้นเช่นแม้ร่างกายจะเป็นเพศหญิง แต่จิตใจรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายแบบนี้ก็ถือว่า genderตัวเองเป็นชาย

       แต่ทุกวันนี้ไม่ได้มีแค่ 4 เพศตามที่เราเคยคิดกันตอนเด็กๆ แล้ว โลกนี้ไม่ได้มีแค่หญิงแท้ชายแท้ กายเป็นชายใจเป็นหญิง หรือกายเป็นหญิงใจเป็นชายแค่นั้นแล้วบางคนมีร่างกายเป็นผู้หญิง จิตใจก็เป็นผู้หญิง แต่รักผู้หญิงหวานๆ ด้วยกันก็มีบางคนชอบได้หมดทุกเพศ แต่ไม่ต้องการมีสัมพันธ์ทางเพศกับใครเลยก็มีเช่นกันยุคนี้จึงมีศัพท์บัญญัติทางเพศเกิดขึ้นมามากมายบางคำได้รับการยอมรับจนได้บรรจุลงพจนานุกรมแล้ว บางคำเป็นคำที่ใช้แค่ในกลุ่ม LGBTหรือกลุ่มเฉพาะของตนเอง วันนี้พี่รวบรวมคำที่น่าสนใจมาให้ดูค่ะอาจจะไม่ครอบคลุมครบทุกเพศและรสนิยมทางเพศที่มีในโลก เพราะมันเยอะมากจริงๆแต่ก็หวังว่าจะพอเป็นไกด์ไลน์ให้น้องๆพอเข้าใจลักษณะทางภาษาและเข้าใจความหลากหลายทางเพศมากขึ้น (บทความจาก http://www.dek-d.com/studyabroad/39881/)

04532078d3827bebc60e27a414ff79c7.jpg


androgynous
    ลักษณะที่มีทั้งของเพศชายและหญิงอยู่ในตัวจะหมายถึงผู้มีลักษณะทางกายภาพทั้งของผู้ชายและผู้หญิงอยู่ในตัวจะมองว่าเป็นเพศใดก็ได้หรือจะหมายถึงการแสดงออกที่มีทั้งดูเหมือนผู้ชายและผู้หญิงก็ได้เหมือนกันส่วนมากจะเจอคำนี้ในวงการแฟชั่น เพราะตอนนี้กระแสนิยมนายแบบหรือนางแบบที่สามารถถ่ายแบบเป็นได้ทั้งผู้หญิงหรือผู้ชายกำลังมาแรง

aromantic
    คนที่ไม่มีความรู้สึกหรือแทบไม่มีความรู้สึกโรแมนติกกับผู้อื่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีอารมณ์ห่วงหาอาทรผู้อื่น เขามีอารมณ์อื่นๆหมดเพียงแต่รู้สึกในแบบโรแมนติกกับคนอื่นไม่เป็น ฉะนั้นความรู้สึกดีต่างๆของคนที่เป็นแบบนี้จะเป็นได้มากที่สุดคือแบบเพื่อนรักเพื่อนที่ดีต่อกันแต่จะไม่พัฒนาไปมากกว่านั้น

asexual
    คนที่ไม่มีความสนใจหรือมีความสนใจน้อยมากในการมีเพศสัมพันธ์นั่นคือเขาสามารถรู้สึกรักชอบคนอื่นได้ มีความรักโรแมนติกได้ แต่เขาไม่ได้อยากที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วยแต่คำนี้มีนิยามค่อนข้างหลากหลายมักเป็นคำที่ใช้อธิบายตัวเองมากกว่าอธิบายตัวตนของผู้อื่นบางคนอาจบอกว่าตัวเองเป็น asexual เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนแต่บางคนอาจบอกว่าตัวเองเป็น asexual เพราะอยากจะมีความรักแบบไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ก็ได้

bigender
    คนที่ไม่ได้เหมือน "ผู้หญิง"และ "ผู้ชาย" แบบที่สังคมกำหนดมาหมายถึงในแง่ลักษณะนิสัยและการแสดงออกนะคะเขาดูมีนิสัยเหมือนทั้งผู้หญิงและผู้ชายตามขนบของสังคม จึงเรียกตัวเองว่าเป็น bigenderเพื่อบอกว่าเป็นทั้ง 2 เพศเลย (bi = สอง)

bisexual
    เดิมหมายถึงคนที่สามารถมีความรู้สึกรักใคร่และสนใจทางเพศกับทั้งผู้หญิงและผู้ชายแต่ตอนนี้ความหมายเปลี่ยนไปว่าเป็นคนที่มีความรู้สึกรักใคร่และสนใจในเรื่องทางเพศกับเพศใดก็ตามมากกว่า1 เพศ อาจจะสนใจเป็นผู้ชายกับผู้หญิงข้ามเพศ หรือจะสนใจทั้งผู้หญิงในแบบที่สังคมกำหนดผู้หญิงข้ามเพศ และผู้ชายข้ามเพศหมดเลยก็ได้ และไม่จำเป็นว่าต้องชอบแต่ละเพศเท่าๆกัน อาจจะโอนเอียงชอบเพศใดมากเป็นพิเศษก็ได้เช่นกัน

happy-couples.jpg

cisgender
    คนที่มีเพศตามสูติบัตรตรงกับเพศทางสภาพจิตใจที่เป็นอยู่และเป็นเพศสภาพตรงตามที่สังคมขีดเส้นไว้เลยว่านี่คือผู้หญิง นี่คือผู้ชาย ง่ายๆเลยคือคนที่เกิดมามีกายภาพเป็นเพศหญิง ตอนนี้ก็มีจิตใจเป็นเพศหญิงอยู่ก็เรียกว่าเป็นพวก cisgender ค่ะ ถือเป็นคำตรงข้ามกับ transgender

demiromantic
    คนที่จะไม่รู้สึกรักลึกซึ้งกับคนอื่นถ้ายังไม่มีความรู้สึกแน่นแฟ้นกับคนคนนั้นก่อน แปลง่ายๆก็คือกว่าที่จะรักโรแมนติกได้ ต้องมีการสร้างความรู้สึกอื่นระหว่างกันมาก่อนแล้วเช่นชอบแบบเพื่อนก่อน แล้วก็เริ่มรู้สึกสนใจมากกว่าเพื่อน แล้วถึงกลายเป็นความรักได้จะไม่ใช่คนที่เกิดรักแรกพบ

demisexual
    คนที่จะไม่รู้สึกสนใจทางเพศกับผู้อื่นตราบใดที่ยังไม่เกิดความรู้สึกรักหรือชอบคนนั้นซะก่อนไม่จำเป็นต้องรักโรแมนติกแบบชู้สาวก็ได้ อาจจะเป็นความชอบแบบเพื่อนก็ได้แต่จำเป็นต้องมีความรู้สึกพวกนี้ก่อนถึงจะเริ่มคิดสนใจในเรื่องเพศกับคนนั้นฉะนั้นสายหื่นที่เห็นภาพคนดังนุ่งน้อยห่มน้อยแล้วเกิดอารมณ์ก็ไม่ถือว่าเป็นกลุ่มนี้นะคะ

heterosexual
    คนที่มีความรู้สึกสนใจ รักใคร่ และถูกดึงดูดทางเพศกับเพศตรงข้ามเช่นผู้ชายชอบผู้หญิง ผู้หญิงชอบผู้ชาย เรียกอีกอย่างว่า Straight ก็ได้

homosexual
    คนที่มีความรู้สึกสนใจ รักใคร่ และถูกดึงดูดทางเพศกับเพศเดียวกันคำนี้มีหลายคนไม่ชอบ เพราะมันเป็นศัพท์ทางการเพศที่ใช้กันต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีตและสมัยก่อนก็ถือว่าเป็นโรคจิตเภทอย่างหนึ่ง ปัจจุบันใช้ gay หรือ lesbian จะดีกว่า



gynesexual
    มีความรู้สึกสนใจในเพศหญิง จะใช้อธิบายคนเพศใดก็ได้เพียงแต่ว่าเขาคนนั้นสนใจในเพศหญิง และจะเป็นเพศหญิงธรรมดาหรือไม่ก็ได้

androsexual
    มีความรู้สึกสนใจในเพศชาย จะใช้อธิบายคนเพศใดก็ได้เพียงแต่ว่าเขาคนนั้นสนใจในเพศชาย และจะเป็นเพศชายธรรมดาหรือไม่ก็ได้

     ** ยังจำ androgynous ได้มั้ยตอนนี้น่าจะสังเกตเห็นแล้วว่ามันคือการเอาผู้ชาย (andro) กับผู้หญิง(gyne) มาผสมกัน

apromantic
    ผู้ที่มีความรู้สึกรักโรแมนติกกับผู้อื่นแต่ไม่ต้องการได้รับความรู้สึกนั้นกลับคืนนั่นก็คือคนที่ขอเป็นฝ่ายรักเขาข้างเดียวโดยไม่ต้องการให้เขารักตอบนั่นเองไม่จำเป็นต้องเป็นการแอบรัก จะรักแบบเปิดเผยโจ่งแจ้งเลยก็ได้เป็นความรู้สึกของพวกพระรองนั่นเอง

pansexual
    ผู้ที่มีความรู้สึกสนใจ รักใคร่ และถูกดึงดูดทางเพศกับเพศใดก็ได้เรียกได้ว่าถ้ารักใครก็รักเพราะตัวตนคนนั้นจริงๆ ไม่มีขอบเขตของเพศมาจำกัด

panromantic
    คล้ายๆ กับ pansexual แต่ตัดความรู้สึกทางเพศออกไปแค่รักโรแมนติกเฉยๆ และสามารถรักกับใครก็ได้โดยไม่สนเรื่องเพศของคนนั้นเช่นกัน

polysexual
    คล้ายกับ pansexual แต่ไม่ใช่เพศใดก็ได้ panหมายถึงทั้งหมด นั่นคือรักได้กับทุกเพศแต่ poly หมายถึง many นั่นคือรู้สึกสนใจ รักใคร่และถูกดึงดูดทางเพศได้กับหลายเพศ แต่ไม่ใช่ครบทุกเพศ แปลว่ายังมีขอบเขตอยู่ว่าเพศไหนได้เพศไหนไม่ได้ แต่มากกว่าสองเพศขึ้นไปนอกจากนี้ถ้าแค่ถึงขั้นรักโรแมนติกแต่ไม่ได้ถึงกับมีความดึงดูดทางเพศก็เรียกได้ว่าเป็นpolyromantic

skoliosexual
    คนที่มีความรู้สึกรักใคร่ชอบพอและมีความสนใจทางเพศกับผู้ที่ไม่ได้เป็นcisgender จะเป็นเพศใดก็ได้จะชอบแค่เพศเดียวหรือหลายเพศก็ได้ แต่จะไม่ชอบเฉพาะผู้ที่เป็น cisgender เท่านั้น

transman
    ผู้ชายข้ามเพศ คือผู้ที่เกิดมาเป็นเพศหญิงแต่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เป็นเพศชาย

transwoman
ผู้หญิงข้ามเพศคือผู้ที่เกิดมาเป็นเพศชาย แต่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์เป็นเพศหญิง


transgender
    เพราะ gender เป็นเรื่องของจิตใจมากกว่า sexualที่เป็นเรื่องของกายภาพ จึงหมายถึงผู้ที่แสดงออกไม่ตรงกับลักษณะของแต่ละเพศที่สังคมกำหนดเช่น เพศชายแบบที่สังคมกำหนดคือต้องเข้มแข็งแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เป็นของผู้ชายโดยเฉพาะและถ้าใครที่เกิดมาเป็นเพศชายและโตขึ้นมามีลักษณะเช่นนี้ก็จะเป็นพวก cisgenderแต่ถ้าใครที่เกิดมาเป็นเพศชาย แต่ชอบใส่กระโปรง ใส่เสื้อใน ขี้แงแบบนี้ก็ถือว่าเป็น transgender ได้เพราะเขามีลักษณะไม่ตรงตามนิยามของเพศชายที่สังคมกำหนดแต่รสนิยมทางเพศของเขาจะชอบผู้หญิงอยู่หรือชอบผู้ชายก็ได้
     ฉะนั้น transgender จึงเป็นคำเรียกรวมๆของผู้ที่แสดงออกไม่ตรงตามแบบที่สังคมกำหนด โดยไม่สนใจเรื่องรสนิยมทางเพศจะเป็นผู้ชายแต่งหญิงที่ชอบผู้หญิงอยู่ก็ได้จะเป็นผู้ชายแต่งหญิงที่ชอบผู้ชายก็ได้เช่นกันหรือจะเป็นผู้หญิงที่เหมือนเป็นทอมแต่จริงๆ แอบชอบเกย์อยู่ก็ได้คำนี้มันกว้างจริงๆ ค่ะ


transsexual
    เหมือนเป็นอีกระดับของ transgender เพราะเป็นเรื่องของกายภาพแล้วผู้ที่จัดว่าตัวเองเป็น transsexual คือผู้ที่รู้สึกว่าเพศทางกายภาพแต่กำเนิดของตัวเองไม่ตรงกับสิ่งที่ตัวเองเป็นจริงๆจึงเปลี่ยนแปลงหรือคิดที่จะเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ตนเองให้เป็นอีกเพศหนึ่งที่ตรงกับใจตัวเองไม่ว่าจะแค่ใช้ฮอร์โมนหรือว่าผ่าตัดแปลงเพศเลยก็ได้

questioning
    คนที่ยังไม่แน่ใจกับเพศสภาพตัวเองหรือผู้ที่กำลังค้นหาอยู่ว่าตัวเองมีรสนิยมทางเพศแบบใด หรือจริงๆแล้วตัวเองมีเพศสภาพใดกันแน่

intersex
    ผู้ที่มีโครโมโซม ฮอร์โมน หรืออวัยวะในร่างกายที่ไม่ตรงกับกายภาพของผู้หญิงหรือผู้ชายทั่วไปเช่นไม่ได้เป็น XX หรือ XY หรือมีอวัยวะเพศของทั้งสองเพศ(เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด)

gender fluid
    เพศสภาพที่เหมือนผสมผสานทั้งของผู้หญิงและผู้ชาย fluid คือของเหลว จึงสื่อว่าเพศสภาพแบบนี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละวันวันนี้อาจจะเทไปทางเป็นผู้ชายมากกว่าอีกวันอาจจะเทไปทางผู้หญิงมากกว่าก็ได้แล้วแต่อารมณ์ของคนคนนั้น

metrosexual
    ผู้ชายที่ดูแลตัวเองดี ใช้เวลา พลังงานและเงินไปมากมายกับการดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองอยู่เสมอ ไม่ได้เป็น transgenderแต่เรียกได้ว่าดูแลตัวเองให้ออกมาดูดีมากที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยยังไม่หลุดไปจากกรอบที่สังคมกำหนดมาว่าเพศชายต้องเป็นอย่างไร


     แค่นี้ก็เยอะมากแล้ว แต่จริงๆ มีเยอะกว่านี้อีกค่ะบางคนอาจจะเรียกตัวเองว่าเป็นแบบนึงแต่ให้นิยามที่ต่างออกไปบ้างก็ได้แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือทางที่ดีเราไม่ควรไปเรียกคนอื่นว่าเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้ให้เขาระบุเองจะดีกว่า เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆความหมายแต่ละคำที่พี่หามาล้วนมาจากชุมชน LGBT แต่ว่าแต่ละชุมชนก็มีนิยามบางอย่างที่ต่างกันออกไปอีกแต่ก็หวังว่าจะได้คำอธิบายที่ค่อนข้างเป็นกลางที่สุดแล้วนะคะ



ขอบคุณที่มา http://www.dek-d.com/studyabroad/39881/
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-5-16 00:32 , Processed in 0.033194 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน