KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 6800|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ตามรอยหนังเรื่อง The Walk มารำลึกถึงตึกแฝดในนิวยอร์กกันเถอะ!

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2015-10-16 02:38

1016.Petit_.Walk_.jpg

จากภาพยนตร์ The Walk
        วันนี้ไปดูหนังเรื่อง The Walk มาค่ะ ได้ inspiration มากๆ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ จุดไคลแมกซ์ของเรื่องนี้คือ Philippe Petit  ทำตามความฝันโดยการเดินข้ามตึกแฝด หรือ ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ด้วยลวด (สมัยตึกเพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ แต่ยังเปิดใช้ได้ไม่ครบทุกชั้น)  แล้วเค้าก็ทำได้จริงๆ โดยมีคนชื่นชมและตำรวจที่รอจับอยู่ทั้ง 2 ตึก!!


จากภาพยนตร์ The Walk


      


ภาพเหตุการณ์จริง ของ Philippe Petit



ภาพเหตุการณ์จริง ของ Philippe Petit



Philippe Petit  ตัวจริงเสียงจริงในปัจจุบัน


        อดีตตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์นี้ เริ่มก่อสร้าง ค.ศ. 1966 (อาคาร 1 สร้างเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1970 และอาคาร 2 เมื่อ ค.ศ. 1972 เริ่มทำพิธีเปิดอาคารวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1973 แต่ละวันจะมีพนักงานทำงานในอาคารนี้มากกว่า 50,000 คน และนักท่องเที่ยวมากกว่า 200,000 คน เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์มีรหัสไปรษณีย์ของตัวเอง คือ 10048




         อดีตตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เป็นสัญลักษณ์ของนครนิวยอร์ก และปรากฏตัวในภาพยนตร์จำนวนมาก เช่น เรื่อง The Godfather III, World Trade Center, MIB, United 93, Oliver and Company , The Walk (ไต่ขอบฟ้าท้านรก)


         
          อาคารประกอบด้วยตึก 7 หลัง อาคารสำคัญก็คือตึกแฝดทั้งคู่นี้ สำหรับสถาปนิกผู้ออกแบบตึกก็คือ มิโนรุ ยามาซากิ ส่วนเจ้าของคือ การท่าเรือของนิวยอร์ก-นิวเจอร์ซีย์ เหตุผลในการสร้างเป็นตึก 110 ชั้นจำนวน 2 ตึก ก็เพราะว่า การสร้างตึกเดียวให้สูง 220 ชั้นนั้นไม่ค่อยจะปลอดภัย แต่ถ้าจะสร้างตึกหลายๆ ตึกโดยให้มีพื้นที่ใช้สอยตามต้องการก็จะทำให้พื้นที่ออกมาคล้ายหมู่บ้านมากเกินไป



          อาคารแฝดหมายเลข 1-2 เป็นอาคารที่สูงที่สุด มี 110 ชั้น โดยอาคารเหนือ มีความสูง 1,716 ฟุต (530 เมตร) และอาคารใต้ มีความสูง 1, ฟุต (415 เมตร) สร้างเสร็จเมื่อ ค.ศ. 1972 และ ค.ศ. 1973 ตามลำดับ ซึ่งเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกเมื่อสร้างเสร็จ ก่อนจะถูกทำลายสถิติโดยอาคารเซียร์ทาวเวอร์ในชิคาโกและสูงที่สุดบนเกาะแมนฮัตตั้น นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา  แต่ละอาคารมีพื้นที่ใช้สอย 3.8 ล้านตารางฟุต (350,000 ตร.ม.) ถ้านับรวมอาคารทั้งหมดจะมีพื้นที่ใช้สอยรวม 11.2 ล้านตารางฟุต (1.04 ล้าน ตร.ม.) โครงสร้างอาคารทั้งคู่เป็นแบบโครงเหล็กกล้า ผนังกระจกคล้ายกำแพงม่านแก้ว บางส่วนของสำนักงานเป็นกำแพงปูนปาสเตอร์ เพื่อประหยัดน้ำหนักของแต่ละชั้น



         คนทั่วไปสามารเข้าชมทัศนียภาพจากอาคารได้ในส่วนของภัตตาคารบนยอดอาคาร (ชั้น 107) ของอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 1 ชื่อ "Windows on the World" และจากอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 2 ชื่อ "Top of the World


         อาคารแฝดถูกทำลายในเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน พ.ศ. 2544 และอาคารอื่น ๆ เสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ สาเหตุมาจากอาคารเวิลด์เทรดเว็นเตอร์ 1 และ 2 ถูกเครื่องบินพุ่งชนทั้ง 2 อาคาร เป็นเวลานานทำให้อาคาร 2 ถล่มทั้งอาคาร และอาคาร 1 ถล่มในเวลาต่อมา ส่งผลให้อาคารรอบข้างถูกซากตัวอาคารถล่มทับจนเสียหาย ไปพร้อมๆ กัน



            เมื่อตึกแฝดคู่นี้โดนชนด้วยเครื่องบิน 767 เครื่องบินได้ทะลุพุ่งเข้าไปภายในตัวอาคาร เกิดเปลวไฟและพวยควันมหาศาล ถ้าเป็นตึกอื่นๆ ที่ออกแบบด้วยวิธีการอื่น เชื่อได้ว่า ตึกจะต้องพังถล่มล้มลงมาในทันทีที่เกิดการชน แต่ตึกเวิลด์  เทรด เซ็นเตอร์ทั้งสองหลังสามารถยืนหยัดอยู่ได้ราว 1 ชั่วโมง(ตึก 2 ที่โดนชนก่อนใช้เวลา 56 นาทีจึงถล่ม ตึก 1 ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีจึงถล่ม) นี่เป็นข้อพิสูจน์อันสำคัญของความแข็งแรงของตึกคู่นี้ และความแข็งแกร่งนี้เองที่ทำให้คนที่อยู่ในตึกมีเวลาพอที่จะหนีออกมาได้จำนวนมาก

            ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมอย่าง ยูจีน คอร์เลย์ (เขาเคยเป็นหัวหน้าทีมสอบสวนการวางระเบิดตึกที่โอกลาโฮมา และจะได้รับหน้าที่นี้อีกในคราวนี้)ที่เห็นภาพการชน ก็สรุปกับตัวเองได้ทันทีว่า ตึกต้องถล่มแน่นอนภายในไม่ถึง 2 ชั่วโมง เขาคิดว่า เราไม่สมควรส่งหน่วยกู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปด้วยซ้ำ หรืออย่างน้อยก็ต้องรีบถอนกำลังออกมาภายใน 1 ชั่วโมง แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น หน่วยกู้ภัยยังอยู่จนกระทั่งตึกยุบตัวลงมา

          แต่หลังจากนั้นก็ได้สร้างตึกใหม่ขึ้นแทน ชื่อว่า One World Trade Center หรือชื่อเดิมคือ ฟรีดอมทาวเวอร์ เป็นชื่อสิ่งปลูกสร้างสองหลังในโลว์เออร์แมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก มักหมายถึงสิ่งปลูกสร้างหลักในกลุ่มเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (World Trade Center complex) ใหม่ และยังเป็นสิ่งปลูกสร้างสูงสุดในซีกโลกตะวันตก วันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ใช้ชื่อเดียวกับหอคอยแฝดเหนือของเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เดิมซึ่งถูกทำลายในเหตุวินาศกรรม 11 กันยายนและตั้งอยู่ ณ มุมตะวันตกเฉียงเหนือของที่ตั้งเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ 16 เอเคอร์ บนที่ตั้งของ 6 เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เดิม อาคารนี้ติดกับถนนเวสต์ทางตะวันตก ติดกับถนนวีซีทางเหนือ ติดกับถนนฟุลทอนทางใต้ และถนนวอชิงตันทางตะวันออก การก่อสร้างเริ่มเมื่อวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2549



             ตึกนี้ เมื่อมองจากภายนอกจะประกอบไปด้วยกระจกเป็นหลัก เน้นการสะท้อนกับแสงอาทิตย์เป็นประกาย โดยความสูง 1,776 ฟุต นั้นทางผู้ออกแบบตั้งใจให้สอดคล้องกับตัวเลขปีที่สหรัฐฯ ประกาศเอกราชจากอังกฤษ ประกอบด้วยสำนักงานจำนวน 69 ชั้น (จากทั้งหมด 104 ชั้น) รวมถึงร้านอาหาร เสาสัญญาณถ่ายทอดสด และจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งใช้งบประมาณในการก่อสร้างราว 3,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(117,000ล้านบาท)



             ทางด้านสถาปนิกเผยว่า ได้เพิ่มคอนกรีตเสริมเหล็กเข้าไปในโครงสร้างอาคารวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ซึ่งจะทำให้มีความแข็งแรงกว่าอาคารแฝดเดิม ขณะที่นายแพทริค ฟอย กรรมการบริหารสำนักงานท่าเรือนิวยอร์กและนิวเจอร์ซี เจ้าของอาคารทั้ง2แห่งและพื้นที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เผยว่า ฉากตึกระฟ้าในนครนิวยอร์กกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง หลังอาคารวันเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เปิดให้บริการ ตั้งตระหง่านเหนือขอบฟ้าในย่านดาวทาวน์บนเกาะแมนฮัดตัน



            ทั้งนี้พนักงานกว่า170ชีวิตจากบริษัทกองเดอ นาสท์ บริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ได้ย้ายเข้ามาทำงานภายในอาคารเป็นจำนวน5ชั้นจากจำนวนชั้นทั้งหมด25ชั้นที่บริษัทเช่าพื้นที่อาคารแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีบริษัทอื่นอีกจำนวนมากที่จะย้ายเข้ามาทำงานภายในอาคารที่สูงที่สุดในสหรัฐ ทั้งบริษัทวางแผนสื่อโฆษณาคิดส์ ครีเอทีฟ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ไปจนถึงหน่วยงานภาครัฐและบริษัทของจีนอย่างไชน่า เซ็นเตอร์





             ไม่น่าเชื่อว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาจะผ่านมาถึง 10 กว่าปีแล้ว ย้อนกลับไปในอดีต มีข่าวโศกนาฏกรรมช็อคโลก ที่ขวัญเสียไปทั่วสหรัฐอเมริกา นั่นก็คือ การก่อการร้ายตึกแฝดที่สูงที่สุดของโลก อย่าง ตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์และตึกเพนตากอน เรื่องราวสำคัญที่โลกต้องจารึก ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ ควรรู้ไว้ พร้อมรำลึกถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นและเดินหน้าต่อไปค่ะ


เรียบเรียง Ice: KhonThaiAmerica
รูปและที่มา http://www.manager.co.th/Marsmag ... ewsID=9570000127311
http://board.postjung.com/613309.html
http://pantip.com/topic/32808207
https://th.wikipedia.org/wiki/%E ... D%E0%B8%A3%E0%B9%8C
รูปเพิ่มเติม www.businessinsider.com blogs.indiewire.com  www.latimes.com www.anorak.co.uk thedialog.org
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-5-20 00:27 , Processed in 0.034355 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน