10 มหาวิทยาลัยในอเมริกา ที่บรรยากาศฟินๆ

ice999

        แม้ว่าระบบการเรียนการสอน ชื่อเสียงในด้านวิชาการ และอาจารย์ที่มีคุณภาพ จะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่เราจะใช้ในการเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่สิ่งหนึ่งที่นักศึกษาหลายคนอาจมองข้ามไปนั่นก็คือ สภาพแวดล้อมภายในมหาวิทยาลัย ที่จะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี แม้จะไม่ใช่ตัวเลือกแรกแต่ก็นับว่ามีความสำคัญไม่น้อย การได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม บรรยากาศดี ซึ่งมหาวิทยาลัยเหล่านี้อาจไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก แต่รับรองได้ว่าบรรยากาศรอบๆ มหาวิทยาลัยสวยงามไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน…

         ผลสำรวจนี้ จัดทำโดย The Princeton Review ผลการสำรวจจากนักศึกษาทั่วสหรัฐอเมริกามากกว่าหนึ่งแสนคน อาจารย์ที่ดีที่สุด หอพัก อาหาร และอื่นๆ ไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางหุบเขา, ริมทะเล หรือจะเต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายสีสัน ได้ถูกรวบรวมไว้ที่นี่หมดแล้ว จะสวยสู้มหาวิทยาลัยในบ้านเราได้หรือไม่? และจะน่าตื่นตาตื่นใจขนาดไหนไปชมกันเลย…

อันดับที่ 10 : วิทยาลัยฟลอริดา เซาท์เทิร์น (Florida Southern College)

ประเภทมหาวิทยาลัย : วิทยาลัยเอกชน
สถานที่ตั้ง : เมืองเลกแลนด์, ฟลอริดา, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : ขาว-แดงเลือดหมู

วิทยาลัยฟลอริดา เซาท์เทิร์น อีกหนึ่งวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง “Frank Lloyd Wright” องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้วิทยาลัยแห่งนี้สวยงามจนติดอันดับ Top 10 มหาวิทยาลัยที่สวยที่สุดในอเมริกา ประจำปี 2015 นอกจากตัวอาคารที่โดดเด่น ที่ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังแล้ว สภาพแวดล้อมรอบๆ วิทยาลัยยังถูกปรับแต่งภูมิทัศน์ให้สวยงามเข้ากับตัวอาคารอันทรงคุณค่าได้เป็นอย่างดี พร้อมกับได้รับการจดทะเบียนรับรองเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของอเมริกา สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้สร้างได้คำนึงถึงนอกจากความงดงามแล้ว ยังคำนึงถึงคุณภาพชีวิตของนักศึกษาในวิทยาลัยอีกด้วย

อันดับที่ 9 : มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University)

ประเภทมหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเอกชน
สถานที่ตั้ง : เมืองพรินซ์ตัน, นิวเจอร์ซีย์, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : ส้มพรินซ์ตัน-ดำ
กีฬาเด่น : บาสเกตบอล, อเมริกันฟุตบอล

อาคาร “หินสีเทา” ที่โด่งดังสุดคลาสสิค สถาปัตยกรรมแบบโกธิคแท้ๆ กลายเป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันไปโดยปริยาย บางอาคารมีชื่อเสียงระดับโลกเลยทีเดียว ภาพตึกสีเทาเก่าแก่ถูกปกคลุมด้วยเถาวัลย์สวยงาม เป็นภาพที่มีมนต์ขลังอย่างบอกไม่ถูก แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก แต่ก็สามารถผสมผสานธรรมชาติกับอาคารต่างๆ ได้เป็นอย่างดี รอบๆ มหาวิทยาลัยมีต้นไม้ขึ้นเรียงรายแผ่กิ่งก้านสาขารวมแล้วกว่า 2,000 ต้น โดยเริ่มมีการวางแผนปรับภูมิทัศน์ภายในมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา โดยผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้โดยเฉพาะ แบบนี้จะไม่ให้ร่มรื่นยังไงไหว!!!

อันดับที่ 8 : มหาวิทยาลัยมิสซิสซิปปี (University of Mississippi)

ประเภทมหาวิทยาลัย : สหศึกษา, มหาวิทยาลัยของรัฐ
สถานที่ตั้ง : เมืองอ๊อกซ์ฟอร์ด, มิสซิสซิปปี, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : น้ำเงินเยล-แดงเลือดหมู
กีฬาเด่น : บาสเกตบอล, อเมริกันฟุตบอล
      
ด้วยการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมที่สวยงาม บนพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมกว่า 2,000 ไร่ สร้างความตื่นตาตื่นใจและความประทับใจให้กับผู้ที่มาเยือนเป็นอย่างมาก ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ.1848 โครงสร้างของตัวตึกต่างๆ ยังคงความงดงามของสถาปัตยกรรมให้เราได้เห็นจนถึงปัจจุบัน ความสวยงามของ “Bailey’s Woods Trail” เดินเท้าเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยที่รายล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม และพันธุ์ไม้นานาชนิด ชมธรรมชาติระหว่างทางราวกับหลงเข้ามาอยู่ในเทพนิยายเลยทีเดียว

อันดับที่ 7 : มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นเมธอดิสท์ (Southern Methodist University)

ประเภทมหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเอกชน
สถานที่ตั้ง : เมืองดัลลัส, เท็กซัส, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : ฟ้า-แดง
กีฬาเด่น : บาสเกตบอล, อเมริกันฟุตบอล

มหาวิทยาลัยชานเมืองที่มาพร้อมกับบรรยากาศอันเงียบสงบภายใต้พื้นที่กว่า 164 เอเคอร์ สนามหญ้ากว้างใหญ่ ตามทางเดินมีต้นไม้เรียงราย อาคารเรียนต่างๆ เป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอจอร์เจีย “Dallas Hall” อันงดงามที่เป็นผลงานการสร้างจากสถาปนิคชื่อดัง Shepley, Rutan และ Coolidge จนได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา และยังมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์อีกด้วย จนได้รับการโหวตจากนักศึกษาให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีบรรยากาศสวยงามชวนฝันติดอันดับ Top 10 ในปี 2015 นี้

อันดับที่ 6 : วิทยาลัยโรลินส์ (Rollins College)

ประเภทมหาวิทยาลัย : วิทยาลัยเอกชน, โรงเรียนเอกชน
สถานที่ตั้ง : เมืองวินเทอร์พาร์ค, ฟลอริด้า, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : น้ำเงินเข้ม-ทอง
      
วิทยาลัยโรลินส์ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลสาบเวอร์จิเนีย เป็นวิทยาลัยขนาดเล็กแต่มีสภาพอากาศที่ดีตลอดทั้งปี ภายในพื้นที่วิทยาลัยประกอบไปด้วยอาคารเก่าสถาปัตยกรรมยุคเมดิเตอร์เรเนียน แม้แต่สระว่ายน้ำยังเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้งสวยงามท่ามกลางธรรมชาติ และเมื่อปี 2000 วิทยาลัยโรลินส์ยังได้รับการยอย่องจากนิตยสารนิวยอร์กไทม์ให้เป็นวิทยาลัยแห่งความทรงจำ จากการสร้างอนุสาวรีย์สันติภาพจากกระสุนปืนใหญ่ของประเทศเยอรมัน เมื่อครั้งสงคราโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงจบด้วยการยอมจำนนของเยอรมันนั่นเอง

อันดับที่ 5 : วิทยาลัยสคริปส์ (Scripps College)

ประเภทมหาวิทยาลัย : วิทยาลัย, วิทยาลัยสตรีล้วน
สถานที่ตั้ง : เมืองแคลร์มองต์, รัฐแคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : ขาว-เขียว
      
แม้ว่าพื้นที่ของวิทยาลัยสคริปส์มีขนาดค่อนข้างเล็กเพียง 30 ไร่เท่านั้น แต่ก็เต็มไปด้วยความงดงามอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ นักศึกษาในวิทยาลัยจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันแสนอบอุ่นจากดวงอาทิตย์แห่งแคลิฟอร์เนีย ท่ามกลางสวนเขียวชอุ่ม เต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่และล้ำค่าในยุคฟื้นฟูเมดิเตอร์เรเนียน ผ่านทางเดินที่สวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ไม่ว่าฤดูไหนก็ยังคงความสวยงามให้นักศึกษาได้ชื่นชมเสมอๆ งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ 2 สถาปนิคชื่อดัง “Gordon Kaufmann” และภูมิสถาปนิก “Edward Huntsman-Trout” ผู้ที่ช่วยออกแบบจัดแต่งภูมิทัศน์ของวิทยาลัยสตรีแห่งนี้ให้สวยงามเต็มไปด้วยพันธ์ไม้ต่างๆ ให้เข้ากับความงดงามแรกแย้มของบรรดานักศึกษาสาวของวิทยาลัยแห่งนี้นั่นเอง

อันดับที่ 4 : วิทยาลัยสวีทเบีย (Sweet Briar College)

ประเภทมหาวิทยาลัย : วิทยาลัยเอกชน, สตรีล้วน
สถานที่ตั้ง : เมืองสวีทบีย, เวอร์จิเนีย, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : ชมพู-เขียว
      
วิทยาลัยที่มีที่ตั้งที่สวยงามโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาบลูริ (Blue Ridge Mountains) บนเนื้อที่กว่า 3,250 เอเคอร์ หนึ่งในวิทยาลัยสตรีล้วนที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในอเมริกา อาคารส่วนใหญ่ในวิทยาลัยสวีทเบียเป็นสถาปัตยกรรมของ “Ralph Adams Cram” และกว่า 21 อาคารเรียนในวิทยาลัยได้รับการจดทะเบียนสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ ไฮไลท์ของวิทยาลัยสวีทเบียนอกจาก “Mary K. Benedict Hall" แล้ว วิทยาลัยแห่งนี้ยังเป็นศูนย์กลางการขี่ม้า ที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 130 เอเคอร์ ลองนึกภาพนักเรียนหญิงบนหลังม้ากับฉากหลังที่เป็นเทือกเขาบลูริสวยงามอย่าบอกใคร…

อันดับที่ 3 : วิทยาลัยโรดส์ (Rhodes College)

ประเภทมหาวิทยาลัย : วิทยาลัยเอกชน
สถานที่ตั้ง : เมืองเมมฟิส, รัฐเทนเนสซี, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : ขาว-ดำ-แดง
      
วิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 เอเคอร์ ในเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาร่มรื่นสวยงาม ตัวอาคารเรียนและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโกธิคที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษ กว่า 13 อาคารเรียนของวิทยาลัยแห่งนี้ยังได้รับการจดทะเบียนสิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติอีกด้วย น่าอิจฉานักศึกษาที่วิทยาลัยแห่งนี้จริงๆ เชียว บรรยากาศคงเหมือนอยู่ในเทพนิยายยังไง…ยังงั้น

อันดับที่ 2 : มหาวิทยาลัยเปปเปอร์ดีน (Pepperdine University)

ประเภทมหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเอกชน
สถานที่ตั้ง : เมืองมาลิบู, แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : ส้ม-น้ำเงิน
กีฬาเด่น : บาสเกตบอล
      
มหาวิทยาลัยเปปเปอร์ดีน ตั้งอยู่ท่ามกลางเชิงเขาที่งดงามแห่งมาลิบู ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาที่เกาะคาตาลิน่า เพื่อจะชมวิวทิวทัศน์ของมหาสมุทรแปซิฟิก ความงดงามที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่างหลงใหล และพยายามจะมาสัมผัสกับบรรยากาศนี้อย่างใกล้ชิด แต่สำหรับนักเรียนที่มหาวิทยาลัยเปปเปอร์ดีนแห่งนี้ถือว่าโชคดีมากๆ ที่สามารถชมความงามของมหาสมุทรแปซิฟิกได้ทุกวัน เพราะมีพื้นที่สำหรับการศึกษาที่สามารถมองเห็นวิวได้โดยรอบ หลายอาคารภายในมหาวิทยาลัยเป็นสถาปัตยกรรมในยุคเมดิเตอร์เรเนียน และหนึ่งในอาคารที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดก็คือก็ “Phillips Theme Tower” รายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มมีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับนักศึกษาเป็นอย่างมาก

อันดับที่ 1 : มหาวิทยาลัยคอลเกต (Colgate University)

ประเภทมหาวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยเอกชน
สถานที่ตั้ง : เมืองแฮมิลตัน, นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา
สีประจำมหาวิทยาลัย : ขาว-แดงเลือดนก
กีฬาเด่น : บาสเกตบอล, อเมริกันฟุตบอล
ภาควิชาที่มีชื่อเสียง : เศรษฐศาสตร์สิ่งแวดล้อม, คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, ชีววิทยา และดาราศาสตร์
      
มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในสหรัฐอเมริกา หลายคนได้ยินชื่อแล้วอาจจะนึกถึงยาสีฟันคอลเกตกันอยู่แน่ๆ แต่งานนี้ไม่เกี่ยวกับยาสีฟันแต่อย่างใด เพราะนี่คือมหาวิทยาลัยที่เรียกได้ว่าเว่อร์วังอลังการที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2015 จากผลสำรวจของ The Princeton Reviewนักศึกษาทุกคนต่างลงคะแนนให้มหาวิทยาลัยคอลเกตเป็นมหาวิทยาลัยที่มีพื้นที่รอบๆ มหาวิทยาลัยสวยราวกับเทพนิยาย รายล้อมไปด้วยขุนเขา ทะเลสาบ และป่าไม้เขียวชอุ่ม โดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบนภูเขาที่ค่อนข้างห่างไกลผู้คน จึงเงียบสงบเหมาะแก่การศึกษาหาความรู้เป็นอย่างยิ่ง สถาปัตยกรรมอาคารต่างๆ ก็ถูกออกแบบมาให้เข้ากับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน จนได้รับฉายาว่า “มหัศจรรย์ที่สุดในสหรัฐฯ” งดงามทุกฤดูกาลจริงๆ

ขอบคุณที่มา http://www.positioningmag.com/content/60130