1. ลดบิลค่าไฟ
หอพักหลายแห่ง แม้จะเป็นหอพักภายในก็ตามจะให้นักศึกษารับผิดชอบค่าไฟฟ้าและน้ำประปาเองฉะนั้นน้องต้องควบคุมการใช้ไฟในห้องค่ะนอกจากวิธีทั่วไปอย่างปิดไฟเมื่อไม่ใช้งานแล้ว น้องยังสามารถไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยได้นะคะเอาคอมพิวเตอร์ไปนั่งทำงานด้วย ชาร์จไฟคอม มือถือ ไอพอด เครื่องเล่นเกม ชาร์จในห้องสมุดให้กระจายเลยค่ะแถมมี wi-fi ฟรีอีกต่างหาก เคยมีนักศึกษาคนหนึ่งใช้ห้องสมุดมหาวิทยาลัยเป็นหอพักตลอดหนึ่งปีแรกเพราะไม่มีเงินพอจ่ายค่าหอพัก(ดีที่ห้องสมุดเปิด 24 ชั่วโมง)ปกติก็ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อในห้องน้ำของห้องสมุดนั่นแหละ ก่อนไปเรียนถ้าวันไหนต้องอาบน้ำค่อยไปอาบที่อพาร์ทเมนท์ของเพื่อน ถ้าน้องๆหาที่พักได้ก็ไม่ต้องประหยัดเท่านายคนนี้ก็ได้นะคะ เดี๋ยวสุขภาพจะเสียก่อนนอนตัวขดอยู่เป็นปี 2. ลดบิลค่าน้ำ
หลักการง่ายๆ เลยค่ะ ลดเวลาอาบน้ำลงซักสองสามนาทีจากที่ปกติจะดื่มด่ำความสุขของการอาบน้ำนานๆ เวลาอยู่บ้านแค่ลดเวลาอาบน้ำลง 1 นาที ภายใน 1 เดือนสามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 568ลิตรเลยนะคะถ้าเพิ่งสอบเสร็จหรือทำรายงานทันค่อยให้รางวัลตัวเองด้วยการอาบนานๆ ทีนึงน้องผู้หญิงก็ลองอดทนไม่สระผมทุกวัน ทิ้งระยะให้ห่างขึ้นบ้างถ้าอากาศหนาวแล้วก็ไม่ได้เสียเหงื่อเยอะก็ลองเปลี่ยนเป็นสระวันเว้นวันวันไหนไม่มั่นใจก็มัดผมหรือถักเปียไป เปลี่ยนลุคไปอีกแบบก็น่าจะดีนะคะ แต่ก็อย่าประหยัดจนกลายเป็นซกมกแทนนะคะ ทีนี้ได้มีโรคประหลาดๆมาทักทายจนต้องเสียเงินรักษาแพงกว่าค่าน้ำอีก 3. ลดค่าโทรศัพท์
ถ้ามี wi-fi เข้าถึงโดยสะดวกอยู่แล้วก็ไม่ต้องมีโทรศัพท์ก็ได้ค่ะคิดถึงที่บ้านก็คุยผ่านโปรแกรมทั้งหลายทำให้เราเห็นหน้าคนที่บ้านแบบฟรีๆแล้วถ้าเมื่อไหร่จำเป็นต้องโทรศัพท์ติดต่อกับหน่วยงานในประเทศนั้นๆก็โทรตู้สาธารณะหรือยืมเพื่อนบ้าง นานๆ ที อย่าบ่อยเกินนะคะเดี๋ยวมันจับทางได้แล้วเลิกคบ ^^
แต่ถ้าจำเป็นต้องมีโทรศัพท์ส่วนตัวจริงๆอย่าลืมเลือกแพ็คเกจดีๆ ก่อนตัดสินใจซื้อซิมที่นั่นนะคะหรืออาจจะแชร์ค่าโทรศัพท์กับรูมเมทก็ได้ ประมาณว่าเป็นโทรศัพท์ประจำห้อง 4. ลดค่าอาหาร
ถ้ามหาวิทยาลัยรวมค่าอาหารไปกับค่าห้องแล้วก็กินให้คุ้มไปเลยค่ะ อะไรที่กินไม่เป็นไม่ชอบก็กัดฟันกินๆเข้าไป ท่องไว้ว่าอดทนกินเพื่ออยู่วันนี้ แล้วพอได้งานที่เงินเดือนดีๆจะกินทุกอย่างที่อยากกินเลย (ฟังดูตะกละ) ที่ให้กินอิ่มๆไว้ก็เพื่อจะได้ไม่ต้องซื้อขนมเพิ่มไงคะหลับหูหลับตากินในโรงอาหารให้เกลี้ยงจะได้คุ้มกับเงินที่เสียไปแล้ว
แต่ถ้าต้องออกไปกินเองถ้าสามารถทำอาหารในที่พักได้ก็ซื้อของเข้ามาทำแล้วหารกับเพื่อนร่วมห้อง แต่ถ้าไม่สามารถทำอาหารเองได้ก็ควรมีนมกับซีเรียลติดห้องไว้ตลอดเพราะน่าจะช่วยชีวิตไปได้อีกหลายมื้อหลังจากที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลังที่เอามาหมดแล้ว นอกจากนี้การไปทานอาหารที่ร้านข้างนอกกับเพื่อนก็ต้องเลือกเพื่อนด้วยนะคะ ถ้าไปกับเพื่อนที่ทานน้อยน้องก็มีความเป็นไปได้ที่จะทานน้อยลง คล้ายๆ ว่าพอเห็นหน้าเพื่อนที่เบื่ออาหารน้องก็จะหมดความอยากอาหารลงไปบ้าง 5. ซื้อของที่ลดราคา
อย่ายึดติดกับยี่ห้อสินค้ามากเกินไป ถ้าของที่จำเป็นต้องซื้อลดราคาไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรก็ตาม ลองซื้อมาก่อนถ้าราคาเต็มใกล้เคียงกันก็น่าจะคุณภาพใกล้เคียงกัน หรือถ้าร้านไหนสามารถใช้บัตรนักเรียนลดราคาได้ก็ควรใช้บัตรให้เป็นประโยชน์เลยค่ะนอกจากนี้ยังมีพวกคูปองลดราคาตามหนังสือพิมพ์หรือนิตยสารถ้าเจอก็ตัดเก็บไว้ทุกครั้ง เผื่อได้ใช้
แต่อย่าสนุกกับการช้อปปิ้งเกินไปนะคะแบบนู่นก็ลด นี่ก็ลด กวาดให้เกลี้ยงเลย จะซื้ออะไรก็ต้องพิจารณาให้ดีก่อนว่าจำเป็นจริงหรือไม่ถ้าซื้อมาเก็บไว้ล่วงหน้า กว่าจะได้ใช้มันจะหมดอายุไหม ลองเดินวนรอบร้านหลายๆ รอบก่อนตัดสินใจ 6. ซื้ออุปกรณ์การเรียนมือสอง
บางห้องสมุดมักจะเอาหนังสือหรือสื่ออื่นๆ ออกมาขายในราคาถูกลองไปเลือกดูว่ามีหนังสือประกอบการเรียนของน้องไหม หรืออาจจะซื้อต่อจากรุ่นพี่ (ถ้าขอแล้วไม่ให้)หรือจากเพื่อนที่ถอนไปแล้ว บางทีอาจรวมไปถึงซื้อเสื้อผ้า รองเท้ามือสองบ้างบางทีสภาพมันก็ไม่ได้เน่าเกินไปค่ะ
สำหรับการซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิคนั้นต้องระวังดีๆ นะคะ ตรวจสอบให้ดีว่าซื้อมาแล้วใช้ได้ไหม มันเจ๊งขนาดไหนซ่อมไหวหรือไม่ ไม่งั้นจะเป็นการเสียเงินฟรีค่ะ 7. หางานพิเศษ
แหล่งหางานใกล้ตัวที่ปลอดภัยที่สุดคือจากศูนย์บริการหางานให้นักศึกษาที่มีแทบทุกมหาวิทยาลัยอยู่แล้วข้อมูลการจ้างงานที่นี่จะค่อนข้างเชื่อถือได้ที่สุดค่ะหรืออาจจะหาตามป้ายประกาศทั่วไป ตามร้านนั้นๆ หรือจากเว็บไซต์ บางงานอาจจะแปลกๆไปบ้าง เพราะนอกจากเป็นพี่เลี้ยงเด็กแล้วยังมีงานเฝ้าบ้าน หรือเฝ้าสวนงานเอาเอกสารใส่ซองจดหมาย รับจ้างซื้อของใช้เข้าบ้านให้ พาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นตัดหญ้า โกยหิมะ ส่งของหรือรับห่อของขวัญ ส่วนงานร้านอาหารบางที่ก็จะได้ของกินฟรีติดไม่ติดมือกลับมาด้วย ประหยัดค่าอาหารได้เยอะ
นอกจากนี้ยังมีพวกงานรับทดลองด้วยค่ะ แบบที่น้องๆ เห็นในโฆษณา “ผู้ใช้ 8 ใน 10 พึงพอใจมาก” ทีนี้น้องจะได้เป็น 1 ใน 10 นั้นซะทีเคยมีการทดลองที่ให้ทานแต่คุ้กกี้กับโปรตีนปั่นเพื่อลดน้ำหนัก ได้ค่าจ้างตั้ง $2,000 แน่ะบางการทดลองก็มีค่าจ้างรายชั่วโมง $8 – 10 ต่อชั่วโมง แต่ต้องรับความเสี่ยงเองนะคะ ถ้าเป็นคนสุขภาพไม่ดีแพ้ง่ายก็ไม่ควรทำค่ะ ถ้าเรียนอยู่ชั้นสูงๆ แล้วก็อาจรับจ้างอาจารย์ช่วยตรวจงาน หรือกรอกข้อมูลก็ได้ค่ะนอกจากจะได้ค่าจ้างเล็กๆ น้อยๆ แล้ว ยังทำให้สนิทกับอาจารย์มากขึ้นนั่นหมายถึงโอกาสความก้าวหน้าที่เพิ่มขึ้นด้วยนะคะ 8. เลหลัง
ของอะไรที่เอาไปแล้วไม่จำเป็น รองเท้าที่คับ เสื้อผ้าที่หลวมหรือคับแล้วก็นำมาเลหลังขายได้หมดเลยค่ะถ้ายังไม่รู้ว่าจะขายจริงจังที่ไหนยังไง ก็เริ่มจากบอกเพื่อนๆเดี๋ยวข่าวก็กระจายไปจนมีเพื่อนของเพื่อนที่สนใจมาขอดูถึงที่จะขายหนังสือหรืออุปกรณ์การเรียนก็ได้นะคะ โละให้หมดเลย
บางทีอาจจะเป็นการแลกเปลี่ยนของกันก็ได้ค่ะน้องสามารถประกาศว่ามีของดังนี้ที่ต้องการขายหรือแลกกับ...บางคนที่มีความต้องการสอดคล้องกับของน้องก็จะนำของมาแลกกันไม่ต้องเสียเงินและได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ
รูปและที่มา http://www.dek-d.com/article/30542/
| 
โพสต์เมื่อ 2015-7-28 15:33:05
ติดตาม
คลังกระทู้
แบ่งปัน
บุ๊คมาร์ก