แนะนำหนังสือนิยายชีวิตวัยเรียน..อ่านเพลินแถมได้ภาษาด้วย

ice999

วันนี้มีหนังสือนิยายภาษาอังกฤษมาแนะนำค่ะ อ่านได้เพลินและยังได้ทักษะทางการอ่าน เขียน สำนวนอีกด้วย ได้ครบเลยทีเดียว

“Eleanor & Park” ยอดขายสูงสุดปี 2014

เรียกได้ว่าเป็นฟิคชั่นที่ได้รับความนิยมจากเหล่าวัยรุ่นมากเลยทีเดียวสำหรับหนังสือเรื่อง Eleanor& Park แต่งขึ้นโดย Rainbow Rowell ภายหลังเปิดตัวได้เพียงไม่นานก็ได้รับความสนใจจากหนอนหนังสือนักอ่านเป็นจำนวนมากจนกลายเป็นหนังสือที่มียอดขายสูงสุดไปโดยปริยาย รวมถึงกวาดรางวัลต่างๆมาครองมากมาย เช่น รางวัล All AboutRomance (AAR) Annual Reader Poll Winners และรางวัล PrintzHonor Book ปี 2014 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับหนังสือที่มีความเป็นเลิศด้านวรรณกรรม
      
       สำหรับเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวความรักของเด็กวัยรุ่นซึ่งหากมองภายนอกแล้วทั้งสองมีความแตกต่างจากสังคมทั่วไป Eleanor หญิงสาวผมสีแดง รูปร่างอ้วน แต่งตัวคล้ายผู้ชาย และ Park หนุ่มลูกครึ่งเกาหลีที่มักทำตัวเงียบๆ และชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจเรื่องราวระหว่างเขาและเธอเริ่มต้นขึ้นบนรถโรงเรียนความต่างของสองตัวละครที่จะทำให้ผู้อ่านเกิดความสงสัยว่าจะลงเอยด้วยกันได้อย่างไรและเชื่อเถอะว่าหากใครได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะทำให้หวนคิดถึง“รักครั้งแรก” สมัยเรียนอย่างแน่นอน



  “Freedom” นักวิจารณ์ยกนิ้ว..หนังสือที่ดีที่สุด!

“แม้คุณจะไม่สมบูรณ์แบบแต่สิ่งเดียวที่คุณมีและไม่มีใครสามารถนำมันไปจากคุณได้ คืออิสรภาพ..ที่จะทำอะไรก็ได้ในแบบที่คุณต้องการ” -Freedom by Jonathan Franzen
      
       อีกหนึ่งหนังสือนิยายขายดีที่ได้รับการพูดถึงจากเหล่านักวิจารณ์หนังสือและได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนังสือที่ดีที่สุดปี 2010 โดยเนื้อหาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักของวัยรุ่นที่เกิดขึ้นบนความสัมพันธ์แบบ “รักสามเศร้า” ที่เริ่มต้นขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัยกับคำถามที่ว่าสิ่งใดจะสำคัญไปกว่ากัน ระหว่าง “ความรักและมิตรภาพ” ระหว่างเพื่อนเนื้อเรื่องของหนังสือเล่มนี้จึงถูกเรียบเรียงไว้ด้วยความรู้สึกอัดอั้นบนสถานการณ์ที่น่าลำบากใจหากใครที่กำลังมีความรักแต่ไม่ต้องการสูญเสียเพื่อนสนิทไปล่ะก็ต้องไม่พลาดอ่านหนังสือเรื่องนี้และแน่นอนชีวิตวัยเรียนคงหนีไม่พ้นเรื่องรักสามเศร้ากันบ้างตามมาหาคำตอบว่าระหว่างเพื่อนกับความรักคุณจะเลือกสิ่งใด..

  "High School Musical" ยอดขาย 4.5 ล้านเล่ม!

ใครไม่รู้จักภาพยนตร์เรื่อง High School Musical คงเป็นไปไม่ได้เพราะถือเป็นซีรีย์ภาคต่อที่ครองใจวัยรุ่นวัยเรียนมาเป็นเวลานาน สำหรับหนังสือชุด High School Musical มีเรื่องราวเกี่ยวกับโรงเรียนดนตรีระดับมัธยมปลายซึ่งตัวละครหลักเป็นนักเรียนมัธยมสองคน ที่ดิ้นรนและต่อสู้เพื่อความฝันของพวกเขาแม้ว่าจะเจออุปสรรคจากเพื่อนในโรงเรียนที่ต้องการให้พวกเขากลับไปทำในสิ่งที่ตนถนัดมากกว่าจะเข้าแข่งขันละครเพลงเรื่องราวเหล่านี้จึงสะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นและความพยายามที่จะทำตามฝัน
      
       High School Musical แต่งโดย N.B. Grace ได้กลายเป็นนวนิยายที่ประสบความสำเร็จที่สุดภายหลังภาพยนร์เรื่องแรกถูกปล่อยออกมาในปี 2006 นิยายเรื่องนี้ไต่ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของนิวยอร์กไทม์ซึ่งมียอดขายดีที่สุด และครองตำแหน่งแชมป์หนังสือขายดีถึง 16 สัปดาห์ และมียอดขายมากกว่า 4.5 ล้านเล่มเลยทีเดียว!
      

A Walk to Remember อันดับหนึ่งนิวยอร์กไทม์!

สำหรับใครที่ชอบอ่านนวนิยายรักหวานชื่นในวัยเรียนคงต้องลองหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านบ้างแล้ว สำหรับนิยายเรื่อง “A Walk to Remember” ผลงานอีกเรื่องของเจ้าพ่อนักประพันธ์นวนิยายสุดโรแมนติก “นิโคลัส สปาร์ค” เรียกได้ว่าเขียนออกมาแต่ละเล่มคนอ่านถึงกับน้ำตาท่วมทุกรายจนติดอันดับหนังสือขายดีในนิวยอร์กไทม์และเข้าตาผู้กำกับจนต้องหยิบเรื่องนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์อีกด้วย
      
       นิยายเล่มนี้เป็นเรื่องราวความรักของสองหนุ่มสาวในช่วงชั้นสุดท้ายของโรงเรียนมัธยมโดยพระเอกของเรื่องมีลุค “แบดบอย หล่อ เท่” เป็นที่ต้องตาของสาวๆในโรงเรียน ในขณะที่นางเอกผู้มีคาเรคเตอร์ “ติ๋ม นิ่ม เด๋อ” ที่ถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดของโรงเรียนแต่แล้วความรักของทั้งสองเริ่มก่อตัวขึ้นบนความต่างที่ใครต่อหลายคนไม่คิดฝันว่าจะเกิดขึ้นได้รวมถึงอุปสรรคที่เข้ามาเป็นบททดสอบของรักในวัยเรียนและจุดจบที่เศร้ากินใจผู้อ่านจนหลายคนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

Haruki Murakami เจ้าของรางวัลระดับนานาชาติ!

ต่อกันที่นวนิยายขวัญใจวัยเรียนชาวญี่ปุ่น “Norwegian Wood” เป็นนิยายที่มีทั้งเรื่องราวความสวยงามและความเศร้าโศกผสมผสานไว้ด้วยกันอย่างลงตัวโดยผู้แต่งชาวญี่ปุ่น HarukiMurakami เจ้าของรางวัลระดับนานาชาติ “Wind-Up Bird Chronicle” ซึ่งมียอดขายมากกว่า 4 ล้านเล่มในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงได้รับความสนใจจากนักอ่านชาวอเมริกันอีกด้วย
      
       สำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับรักแท้และมิตรภาพของนักศึกษาคนหนึ่งที่ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของหลักการใช้ชีวิตและทัศนคติต่างๆ ที่อยู่รอบตัวหนังสือเล่มนี้ได้สอดแทรกแง่คิดคำสอนให้ผู้อ่านรู้จักคุณค่าของมิตรภาพและวิธีปฏิบัติกับคนที่รักเรารวมถึงเปิดโลกกว้างให้ผู้อ่านได้เห็นว่าแท้จริงแล้วโลกแห่งความจริงไม่ได้สวยงามเสมอไป


  The Perks of Being a Wallflower นวนิยายครองใจสู่หนังอินดี้

หนังสือเล่มนี้ถูกถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวละครหลักสามเพื่อนซี้ชาร์ลี แพทริก และแซม ซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัวและไม่มีใครคบแต่กลับต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ในสังคมโรงเรียนนั่นจึงทำให้เขาพยายามปรับตัวให้เข้ากับสังคมรอบตัวให้ได้ แม้จะดูลำบากในช่วงแรกแต่ไม่นานเขาก็จะได้พบเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทและค่อยๆเปลี่ยนตัวเขาให้กลายเป็นคนใหม่
      
       นอกจากเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดผ่านชีวิตวัยหนุ่มสาววัยเรียนแล้วยังมีเรื่องของมิตรภาพ ปัญหาครอบครัว และความรักที่สับสนของตัวละครด้วย หนังสือเล่มนี้ยังได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์อินดี้เรื่องเยี่ยมที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์มากมายอีกด้วย






อ่านต่อเพิ่มเติม  http://www.lifehack.org/articles ... nt-should-read.html

รูปและที่มา http://www.manager.co.th/Campus/ ... ewsID=9580000069200