KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 5017|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

" ปริญญามิกกี้เม้าส์" 12 สาขาวิชาสุดแปลก สอนจริง...เรียนจริงในอเมริกา

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8




557000008808701.JPEG


หลายคนอาจยังไม่เคยได้ยิน และยังคงสงสัยว่า “ปริญญามิกกี้เมาส์” หมายถึงอะไร? วันนี้  จะมาบอกเล่าท้าวความให้ฟังกันก่อนเกี่ยวกับปริญญามิกกี้เมาส์ชื่อน่ารักแต่เอ๊ะมันคืออะไร? “Micky Mouse” เป็นสัญลักษณ์ในการกล่าวคำเสียดสีและถูกนำมาใช้เปรียบเปรยเรื่องการศึกษาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 โดยนิตยสารแทบลอยด์ในอังกฤษกล่าวถึง มหาวิทยาลัยที่มีชื่อหลักสูตรในระดับปริญญาแปลกๆโดยเรียกว่าเป็นปริญญามิกกี้เมาส์ "Mickey Mouse degrees" ซึ่งมีการเรียนจริง สอนจริงในมหาวิทยาลัยต่างๆ ไม่เท่านั้นบางวิชายังเปิดสอนในมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆอีกด้วย เอาเป็นว่าเกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว อยากรู้แล้วใช่ไหมว่า "สาขาวิชาแปลกๆ" ที่ว่ามานี้มีวิชาอะไรกันบ้างเผื่อใครสนใจอยากจะไปลงทะเบียนเรียนดูบ้างไม่ว่ากัน...




   1. สาขาวิชาว่าด้วยความโง่ (Stupidity)



วิทยาลัยออกซิเดนทอล (Occidental College) วิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเกิ้ล ร็อคใกล้กับลอสแอนเจลิส ได้เปิดหลักสูตรวิชาว่าด้วยความโง่ (Stupidity) ที่มีเนื้อหาวิชาเกี่ยวกับสมติฐานเรื่องความโง่โดยจะหาบทพิสูจน์ว่าคุณโง่จริงหรือเปล่า โง่เรื่องอะไรเรื่องอวัยวะหรือเรื่องผู้หญิงและเมื่อเรียนจนสำเร็จการศึกษาออกมาก็จะได้รู้สักทีว่าเราโง่หรือฉลาดกันแน่? หรือโง่ตอนเรียนแล้วจบออกมาฉลาด?อันนี้ก็แล้วแต่ดุลพินิจและวิจารณญาณของแต่ละบุคคลนะเออ...



2.  สาขาวิชาซิมป์สันและปรัชญา (The Simpsons and Philosophy)



หลักสูตร “ซิมป์สันและปรัชญา” นี้เป็นหลักสูตรแปลกผลงานของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย-เบิร์คลีย์ของสหรัฐฯที่นำเอาเรื่องราวต่างๆ ของการ์ตูนซิตคอมยอดฮิตในสหรัฐอเมริกาอย่างครอบครัว “เดอะ ซิมพ์สัน” ที่มีเนื้อเรื่องตลกเสียดสีวิถีชีวิตชนชั้นกลางของชาวอเมริกันโดยผ่านตัวละครในครอบครัว คือ โฮเมอร์, มาร์จ, บาร์ต, ลิซา และ แม็กกี้ มีเนื้อหาที่ถากถางมุมมองของสังคมมนุษย์วัฒนธรรมอเมริกันและจิตวิทยาครอบครัว ซึ่งผู้เรียนจะได้พบกับแง่มุม ข้อคิด ปรัชญาการใช้ชีวิตต่างๆจากการ์ตูนเรื่องนี้โดยเอามาศึกษาเปรียบเทียบในเชิงปรัชญากับผลงานของปรมาจารย์อย่างเพลโตและโฮเมอร์



3. สาขาวิชาวิพากษ์บียอนเซ่ (Politicizing Beyonce)




มหาวิทยาลัยรัทเจอร์ส (Rutgers) ในนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ได้เพิ่มวิชาที่เกี่ยวกับนักร้องสาวผิวสีชื่อดังแห่งยุค “บียอนเซ่” ไว้ในหลักสูตรที่มีชื่อว่า “Politicizing Beyonce” หรือวิชาวิพากษ์บียอนเซ่โดยศึกษาทั้งบทบาทศิลปิน บุคลิกลักษณะและการทำงาน เรื่องการเมือง เพศประเด็นทางเชื้อชาติ และคนผิวสีในสังคมอเมริกันนอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับนักร้องสาวคนอื่นๆอย่าง เลดี้ กาก้า ซึ่งก่อนหน้านี้มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ได้เปิดสอนวิชาที่เกี่ยวกับแรพเปอร์หนุ่ม “เจย์-ซี” สามีของเธอในชื่อวิชา“สังคมวิทยาของฮิปฮอป:เจย์-ซี อีกด้วย


4. สาขาวิชาเลดี้กาก้าและสังคมวิทยาความโด่งดัง (The Sociology of Fame and Lady Gaga)



เลดี้กาก้ามีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมและสังคมยุคใหม่จนทำให้มหาวิทยาลัยเซาธ์แคโรไลนา (University of South Carolina) ของสหรัฐอเมริกา ได้เปิดสอนหลักสูตรใหม่ในสาขาวิชา "เลดี้กาก้าและสังคมวิทยาความโด่งดัง" โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปิดเผยประเด็นทางสังคมในมุมมองความมีชื่อเสียงโด่งดังของกาก้าที่เกี่ยวข้องกับเพลงวิดีโอ แฟชั่น และความพยายามทางศิลปะของเธอ


5. สาขาวิชาภาษาเอล์ฟ (Elvish, the language of “Lord of the Rings”)


ครั้งหนึ่งที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง “Lord of the Rings” เป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน (University of Wisconsin) จึงได้เปิดหลักสูตรการเรียนรู้ภาษาภูติ(Elvish) สำหรับคนที่สนใจบทสนทนาระหว่างเลโกลัส และ ธรันดูอิล จากการเรียนภาษา “Sindarin” (ซินดาลีน) เป็นภาษาที่ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์ได้ประดิษฐ์คิดค้นภาษาเอล์ฟขึ้นมาใช้ในนวนิยายชุดมิดเดิลเอิร์ธของเขาเองจนสามารถใช้งานได้จริง มีไวยากรณ์และคำศัพท์มากพอจะใช้งานในชีวิตประจำวันได้ คือ ภาษาเควนยา และภาษาซินดารินซึ่งในนิยายระบุว่าทั้งสองภาษาเป็นภาษาที่เอล์ฟในมิดเดิลเอิร์ธใช้งานกันเป็นภาษาหลักอย่างในภาพยนตร์ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน ชื่อสถานที่ต่างๆรวมทั้งอักขระที่จารึกบนประตูทางเข้าเหมืองมอเรีย ก็ล้วนเป็นภาษาซินดารินทั้งสิ้


6. สาขาวิชาซอมบี้ศึกษา (Zombie Studies)



  มหาวิทยาลัยบัลติมอร์ (University of Baltimore) สหรัฐอเมริกา เอาใจคนรักผีดิบด้วยการเปิดหลักสูตรวิชา “ซอมบี้ศึกษา” ในระดับปริญญาตรีเกี่ยวกับการวิเคราะห์ภาพยนตร์ผีดิบที่เป็นที่นิยมเพื่อให้นักศึกษารู้เท่าทันภัยคุกคามของพวกซากศพคืนชีพและเตรียมรับมือวันที่ซอมบี้ออกอาละวาด หรือในวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia College) ในชิคาโกก็มีการเปิดคอร์ส “ซอมบี้ในสื่อยอดนิยม”(Zombies in popular Media) เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ความสำคัญและทัศนคติต่อผีดิบในภาพยนตร์สยองขวัญและแฟนตาซี ทฤษณีต่างๆเกี่ยวกับซอมบี้ ซึ่งมาจากสื่อทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาประวัติของชาววูดูในประเทศเฮติซึ่งเป็นต้นกำเนิดของซอมบี้อีกด้วย


7. สาขาวิชาการเดาโดยใช้คณิตศาสตร์ (Street-Fighting Mathematics)



วิชาสุดแปลกนี้เป็นหลักสูตรที่เปิดสอนในสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) ที่ไม่เพียงขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานการศึกษาในระดับโลกแล้ว MIT ยังมีสาขาวิชาแปลกๆที่เปิดสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งนี้อีกมากมายด้วยเช่นกัน อย่างเช่นวิชา “Street-Fighting Mathematics” ที่สอนวิธีการเดาอย่างมีหลักการโดยใช้คณิตศาสตร์ทุกแขนงไม่ว่าจะเป็นตรีโกณมิติตรรกศาสตร์ ความน่าจะเป็นและอื่นๆ อีกมากมายโดยจะให้นักศึกษาคาดคะเนผลลัพธ์ของทุกๆ อย่างเช่น จิตใจของมนุษย์ว่าคนๆหนึ่งจะตัดสินใจอย่างไร? ไปจนถึงการใช้คณิตศาสตร์เพื่อหาตัวอาชญากรตามแบบซีรี่ย์ชุด Numb3rs


8.สาขาวิชาเดินยังไงไม่ให้เบื่อ (Art of Walking)



ศาสตร์แห่งการเดินนี้ไม่ใช่วิชาที่เรียนเพื่อพัฒนาบุคลิกหรือเดินเพื่อสุขภาพแต่อย่างใดแต่สาขาวิชานี้เริ่มต้นจาการที่สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งที่เมืองแดนวิลล์รัฐเคนทักกี้ ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างห่างไกลความเจริญหากเทียบกับเมืองอื่นๆ การจะเดินไปยังร้านขายของชำขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ห่างไกลไปหลายไมล์อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายได้ ดังนั้นจึงได้เปิดหลักสูตร "สาขาวิชาเดินอย่างไรไม่ให้เบื่อ" ขึ้นมาเพื่อให้เรารู้ถึงวิธีการเดินอย่างไรไม่ให้เบื่อเพื่อที่จะสามารถเดินเท้าเป็นระยะทางไกลๆ ได้แทนการใช้รถยนต์ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศถือเป็นการช่วยโลกไปอีกทางหนึ่งด้วย


9. สาขาวิชาการเถียงกับผู้พิพากษาจูดี้ (Arguing with Judge Judy)



ถ้าคุณพบว่าตัวเองกำลังกรีดร้องอยู่หน้าจอทีวีขณะกำลังดูรายการ “Judge Judy” เพราะไม่พอใจในคำตัดสินแล้วหละก็ให้มาลงทะเบียนเรียนวิชา “Arguing with JudgeJudy” ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลี (UC Berkeley) ได้เลยซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันอาจเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะเถียงเพื่อเอาชนะผู้พิพากษาที่เปรียบเสมือนตราชั่งความยุติธรรมอันสูงสุดแต่หลักสูตรนี้จะสอนให้นักเรียนสามารถโจมตีทุกคนด้วยคำพูดสุดเจ็บได้นอกจากนั้นยังมี “Popular 'Logic onTV Judge Shows” ที่เนื้อหาเกี่ยวกับการเรียนรู้ตรรกะที่ได้รับความนิยมมากของรายการเรียลริตี้โชว์การสร้างความผิดหวังเล็กน้อยให้กับผู้ชมเพื่อเรียกเรตติ้ง ไม่ว่าจะเป็น “ผู้พิพากษาจูดี้” หรือ “ศาลประชาชน” ซึ่งทั้งหมดนั้นคือกลยุทธ์เรื่องความผิดพลาดที่อยู่คู่กับความสนุกสนานในรายการบันเทิงนั่นเอง


10. สาขาวิชาเทคนิคชนะการประกวดนางงาม (How to Win a Beauty Pageant)



หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่เปิดมานานตั้งแต่ปี1920 จนถึงปัจจุบันของวิทยาลัย “Oberlin College” ประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเปิดสอนเกี่ยวกับวิธีการที่จะชนะการประกวดนางงาม ต้องเรียนรู้ในเรื่องเพศ, ชนชั้น, เพศที่สาม,ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เอกลักษณ์ประจำชาติของสหรัฐอเมริการวมไปถึงการวิเคราะห์วาทกรรม เพื่อเป็นประโยชน์ในการตอบคำถามอย่างไรให้ชนะใจกรรมการบุคลิกการวางตัวทั้งหลายแหล่ที่จะทำให้คุณเอาชนะคู่แข่งในทุกๆ ทางไปจนถึงเวทีนางงามระดับโลก


      
11.สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การเป็นฮีโร่ (The Science of Superhero)



เป็นอิทธิพลมาจากการดูภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับซูเปอร์ฮีโร่ที่หลายคนมักสงสัยว่า คนอะไรจะเหาะเหินเดินอากาศได้ดังนั้นมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ (University of California : Irvine) จึงได้เปิดหลักสูตรวิชาวิทยาศาสตร์กับการเป็นฮีโร่ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาควิชา Physics and Astronomy เพื่อไขข้อข้องใจเหล่านั้นโดยเนื้อหาวิชาจะเน้นที่เรื่องราวต่างๆ ของฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็น Superman, Batman, Spider-Man, Wonder Woman และอื่นๆโดยการใช้หลักการวิทยาศาสตร์ เพื่อแก้ข้อสงสัยว่าซุปเปอร์ฮีโร่เหาะเหินเดินอาการได้จริงรึเปล่า ถ้าจริงจะทำได้ด้วยวิธีใดโดยอ้างอิงถึงหลักการ ทางวิทยาศาสตร์แล้วทีนี้จะได้รู้กันว่าเราจะสามารถเรียนแบบฮีโร่ หรือทำแบบที่ฮีโร่ทำได้จริงๆหรือไม่

12. สาขาวิชาการออกแบบชีวิต (Designing Your Life)



ปัญหาของนักศึกษาส่วนใหญ่ในมหาวิทยาลัยดังๆมักจะเป็นพวกความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดหลายคนเรียนเก่งแต่ไม่รู้จักวิธีการจัดการชีวิตของตัวเองดังนั้นสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์(MassachusettsInstitute of Technology) จึงได้เปิดสอน วิชาการออกแบบชีวิต ขึ้นเพื่อช่วยเหลือนักศึกษาโดยมีเนื้อหาที่สอนตั้งแต่การใช้ชีวิตให้มีความสุข พอใจกับสิ่งที่มีการจัดการเงินเดือนให้พอใช้จ่ายและมีเงินเก็บ การเข้าสังคม การทำงานรวมไปถึงความสัมพันธ์ส่วนตัวอย่างการมีแฟน และการพูดคุยกับพ่อแม่ซึ่งในตอนแรกได้เปิดสอนเป็นคอร์สสั้นๆ แต่ผลตอบรับที่ได้ดีเกินคาดจึงต้องบรรจุไว้เป็นวิชาประจำไปในที่สุด







ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-5-6 17:25 , Processed in 0.036276 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน