KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 5360|ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

รีวิว : เที่ยว Wisconsin Dells ช่วงคริสมาส

[คัดลอกลิงก์]

109

กระทู้

25

ติดตาม

3112

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

กำลังตื่นเต้นหลังจากกลับมาจากไปเที่ยวที่ Wisconsin Dells ประทับใจมากซะจนต้องมาเขียนบันทึกความประทับใจลงไป

ทริปนี้เริ่มแรกจากการตัดสินใจจะไปเที่ยวแบบกระทันหันมากๆ ทีแรกว่าจะไปกับน้องสาว แต่เผอิญวันที่น้องไป กรุ๊ปเราไม่สะดวกกัน เลยไปแอบถามน้องๆที่เค้าวางแผนจะไปเที่ยวก่อนหน้านี้กับที่ทำงานว่าจะไปที่ไหนกันขอร่วมแจมด้วยได้มั๊ย (โดยเราจะขับรถไปกันเอง แล้วจองที่พักใกล้ๆกันเอา) เพราะเราคิดว่าไปหลายๆคนน่าจะสนุกกว่าทางนั้นเค้าไม่มีปัญหาอะไร เราก็เลยเลือกจองโรงแรมเดียวกันเลย ที่ Wilderness On The Lake

ที่พักที่จองเป็นแบบ 2 ห้องนอน เตียง คิงไซส์ 1 ควีนไซส์ 2 แต่นอนได้ 6คน สูงสุดพักได้ 9 คน (เรทราคาที่จ่ายอยู่ 6 คน) สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะห้องครัว เครื่องซักผ้า อบผ้า มีอ่างจากุชชี่ สำหรับ 4 คนด้วยในห้อง มี  2ห้องน้ำ เรียกว่าเริ่ดมากๆ ทางเราไปกัน 4 คน (เสียดายน้องอีกคนมาไม่ได้ เพราะติดทำงานหาคนมาทำแทนไม่ได้) ส่วนราคาที่ดูในเว็บ รู้สึกว่าแต่ละวันราคาจะไม่เท่ากัน ยิ่งช่วงเทศกาล ราคายิ่งแพง





(รูปจากเว็บไซต์)

    ที่พักในเครือของ Wilderness มีหลายแบบพอสมควร หลายราคา มีทั้งถูกและแพงกว่านี้ แต่เอาตรงๆ เราไม่รู้สึกผิดหวังเลยที่เลือกพักที่นี่ แม้ราคาจะสูงกว่าที่พักแบบอื่นๆ เพราะพอหารกันกับเพื่อนๆ ราคาก็ถือว่าโอเคอยู่

วันก่อนไปเที่ยว พายุฝนกระหน่ำที่ Chicago จนเราแอบคิดว่า Wisconsin จะเป็นไงบ้าง เพราะดูจากพยากรณ์อากาศ ทางนั้นก็ตกเหมือนกัน แต่ว่า พอถึงช่วงกลางคืน พอดูพยากรณ์อากาศ ฝนที่ Wisconsin Dells ก็เปลี่ยนกลายเป็นหิมะแล้ว เย้

เช้าวันเดินทาง เราเตรียมสำภาระ ที่เหมือนจะไปเป็นอาทิตย์ ยัดกระเป๋า และเอาใส่รถ 555 ก็เพราะมีแผนจะไปเล่นน้ำที่สวนน้ำกันด้วย ทั้งชุดว่ายน้ำและ อะไรต่างๆ เลยเตรียมไปซะเพียบ พอสมาชิคครบ ก็ขับรถตามทีมใหญ่ ที่ขับรถล่วงหน้าไปกันก่อนแล้ว เราออกจาก Chicago ประมาณ 11 โมงกว่าๆ ไปถึง Wisconsin Dells ประมาณบ่าย 2 โมงกว่า เรายังเข้าที่พักไม่ได้ (ที่พักเช็คอินได้ประมาณ 4 โมงเย็น) ก็ไปกินข้าวกันก่อนที่ร้านอาหารจีนระหว่างกินข้าวประมาณ บ่าย3โมงกว่าๆ ทางที่พักก็ Text มาบอกทางมือถือว่าเข้าที่พักได้แล้ว พอเรากินข้าวกันเสร็จก็ไปเก็บของเข้าที่พัก ก่อนเตรียมตัวไปเล่นสวนน้ำ

ราคาที่พักรวมค่าเข้าสวนน้ำแล้ว เค้าจะให้ wishband พลาสติกมาคล้องมือคนละอันเป็นสัญลักษณ์ว่าสามารถเข้ามาใช้บริการได้ กับ บัตรเอาไปแลกผ้าขนหนูที่สวนน้ำ

ที่ Wilderness มีสวนน้ำอยู่ หลายจุดเหมือนกัน เราเลือกไปจุดใหญ่ ที่มี 2 ส่วน คือส่วน คือ Klondike Kavern กับ Wild WaterDome 2 โซนนี้มีทางเชื่อมเดินหากันได้  ส่วนใหญ่เราจะเล่นที่ฝั่ง Klondike Kavern เพราะมีอะไรให้เล่นเยอะกว่า ทาง Wild WaterDome ตรงส่วนนี้จะเป็นแนวๆ สระน้ำมีคลื่น แล้วน้ำมันแอบเย็นอะ เราเลยไม่ลงไปเล่นเพราะหนาว แหะๆ

ที่นี่มีล๊อคเกอร์ให้ฝากของนะ ราคาคิดที่ $6 และ $8 ต่อวัน ตามแต่ขนาดตู้ ของเราเลือกตู้ขนาดเล็ก แล้วฝากแค่กระเปาเงิน โทรศัพท์ของมีค่าต่างๆ ที่เหลือ เอากองไว้บนโต๊ะ ผ้าขนหนูไม่ต้องหอบมา เพราะเค้ามีให้ใช้เปลี่ยนใหม่ได้เรื่อยๆโดยเอาของเก่าไปแลก







ห่วงยางไหลไปตามน้ำ ชอบมาก เล่นหลายรอบ (ไม่หนาวดี แล้วมันชิลๆดี)

  เล่นห่วงยางไปหลายรอบ แล้วน้องๆหลงหายไปไหนกันหมดแล้วไม่รู้ เราก็ลองออกไปเดินๆหาดู มองหน้าต่าง อุ๊ย หิมะตกๆ สวยมาก นึกในใจ พรุ่งนี้ไปเล่นสกีน่าจะฟิน แล้วเราก็มองไปที่บ่อน้ำร้อน เห็นมีทางเชื่อมออกไปข้างนอกด้วยเลยลากน้องอีกคนไปลองด้วยกัน ตอนที่เอาขาลงไป โหยยย น้ำร้อนมากกกก ลงไปทีเดียวไม่ไหว เราต้องค่อยๆปรับอุณหภูมิ ค่อยๆเดินลงไปลึกลงไปเรื่อยๆ จากนั้นก็มุดออกไปข้างนอก

ไม่น่าเชื่อ ในขณะที่ข้างนอกหิมะตก แต่ตัวเราไม่หนาวเลย เพราะแช่อยู่ในน้ำร้อน แล้วความรู้สึกแบบว่า ฟินมากกกก ฟินสุดๆ บ่อน้ำร้อนเป็นแบบจากุชชี่ด้วยนะ มีปล่อยน้ำออกมานวดๆ แล้วมันเห็นเลยว่าน้ำร้อนจนมีไอออกมาจากบ่อ ปะทะกับอากาศเย็นๆข้างนอก คนไปแช่เยอะมากกก เราก็ไปร่วมฟินกับเค้า อิอิ

มีคนนึง ลุกขึ้นจากบ่อด้านนอกไปยืนถ่ายรูป โหยย ตัวนางมีควันออกมาจากตัวเลย เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกประหลาดดีจริงๆ นี่ ถ้าไม่ติดว่ากลัวมือถือตกน้ำ อยากจะเอามือถือไปถ่ายรูปมากๆ เพราะมันสวยมากจริงๆ ท้องฟ้ามืดๆ เงยหน้ามองหิมะ ตัวแช่บ่อน้ำร้อน นี่ถ้าหิมะไม่ตกคงเฉยๆ แต่พอมีหิมะเพิ่มเข้ามาเท่านั้นแหละ พิเศษมากจริงๆ ว่าแล้วก็ต้องไปตามสมาชิคคนอื่นๆมาร่วมฟินเพราะแต่ละคนก็จะแยกๆไปเล่นตามโซนต่างๆแล้วแต่ชอบกัน สายโหดหน่อยก็จะมีพวก นั่งบนห่วงยาง แล้วลงมากับสไลด์เดอร์สูงๆ (น้องๆชวนไปเล่นแต่เราขอผ่าน ><)


ภาพประกอบจากเน็ต

พอเจอน้องๆก็โดนหลอกไปเล่นสไลด์เดอร์อุโมงค์ แบบที่นอนทิ้งตัวลงมา น้องบอกชิลๆพี่อันนี้ แต่ ... ฮือออออ ไม่เล่นแล้ววว ลงมาน้องๆรอหัวเราะอยู่ปลายทาง แง่มมมม ทำกันได้ลงงง เราปล่อยน้องๆ ให้เล่นแบบผู้ใหญ่ๆไป เราหัวใจจะวายขอเล่นแบบเด็กๆ 555 ว่าแล้วก็กลับไปแช่น้ำร้อนต่อ ก่อนพวกน้องๆจะตามมาฟินในบ่อน้ำร้อนกัน อยู่ในบ่อกันซักพักใหญ่ๆ ก่อนจะออกไปเล่นอย่างอื่นต่อ (เราก็ไปนั่งห่วงยางแบบเด็กๆต่อ อิอิ)  จนสวนน้ำใกล้จะปิดค่อยไปเอามือถือมาเก็บรูป เสียดายที่หิมะหยุดตกแล้ว ไม่งั้นจะลองลงบ่อไปเก็บภาพซะหน่อย

เล่นน้ำกันเสร็จ กลับห้องก็ไปต่อกันที่อ่างจากุชชี่ แหม ไหนๆในห้องก็มีอ่างจากกุชชี่แล้ว จะไม่ลงก็เสียดายของแย่ซิ ว่าแล้วก็จัดการเปิดน้ำ แล้วสาวๆก็ลงมาเล่นน้ำกัน และเพื่อเพิ่มบรรยากาศ เราก็จัดแจงเอาแก้วไวน์มาใส่เครื่องดื่ม (โค้ก) แล้วกินกันในอ่าง อิอิ

2015-12-24 16.34.34.jpg


แช่กันจนหน่ำใจก็ไปอาบน้ำแล้วไปปาตี้ต่อที่ห้องของทีมใหญ่ กินข้าวกันอร่อยมาก อิ่มสุดๆ ก่อนจะลากลับห้องตัวเองตอนตี 1กว่าๆ มานอนสลบที่ห้อง เพราะต้องเช็คอินตอน 11 โมงเช้า (ก็ต้องตื่นกันตั้งแต่ 10 โมงเช้า)








รับให้คำปรึกษาและช่วยดำเนินการเรื่องการทำวีซ่านักเรียน (อเมริกา)

109

กระทู้

25

ติดตาม

3112

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8


ตื่นเช้ามา 10 โมง ก็มานั่งต้มมาม่า กับอุ่นอาหารเช้าที่เตรียมมากินกัน ที่นี่มีจานชามช้อนส้อม เตาแก๊สและไมโครเวฟให้ด้วย ทำอาหารสบายมาก กินข้าวกันเสร็จก็ลงมาเช็คเอ๊า ถ่ายรูปเล่นในโรงแรม



สวนน้ำตรงที่พักเราเลย เสียดายไม่ได้เล่นตรงนี้ น่าเล่นเหมือนกันแหะถ้าได้พักอีกวันคงได้มาเล่น


แล้วก็ออกเดินทางไปที่ลานสกีต่อที่ Cascade Mountain ขับรถไปจากที่พักประมาณ 25 นาที ซึ่งก็ไม่ไกลกันเท่าไหร่ ไปถึงก็ไปเช่าอุปกรณ์ ซึ่งจะมีให้เลือกว่าจะเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด ส่วนเจ้าห่วงยาง หรือชื่อ Tubes เจ้านี่เราก็อยากเล่นนะ ถ้าจะเล่นเจ้านี้ด้วยแอดเพิ่มอีกแค่ $10 เอง แต่ว่า เค้าบอกว่า ทุกจุดจะปิดบริการตอน 4.30 คงไม่มีเวลาได้เล่นก็เลยไม่ได้เล่นกัน เลือกแค่สกี หรือสโนว์บอร์ดเอา




ส่วนเรา ทีแรกเลือกเล่นสโนว์บอร์ด แล้วก็ค่อยไปเปลี่ยนเป็นสกีทีหลัง มันเปลี่ยนสลับกันได้ แค่เอาอุปกรณ์ไปคืนแล้วแลกมา แปลกใจมาก เพราะตอนเลือกเล่นสโนว์บอร์ด เราใส่รองเท้าเบอร์ 7 นี่แอบหลวมนิดนึง แต่พอไปเล่นสกี รองเท้าเบอร์ 7- 8 กลับคับ ต้องใส่เบอร์ 9 แทนที่ลานสกีคนเยอะมากๆ ครึกครื้นมาก เจอคนไทยหลายคนเลย





โซนที่เล่นจะมีหลายระดับ ตั้งแต่แบบชันๆไปจนถึงแบบฝึกหัดสำหรับมือใหม่ ส่วนเราเหรอ เล่นทางราบ 555 คือแบบว่า แค่มันชันนิดหน่อยยังเบรคไม่ค่อยจะอยู่เลย (T^T) ดูคนอื่นเล่นดูง๊ายง่าย ทำไมเราเล่นรู้สึกยากจัง ฮือออ


เค้ามีสอนเล่นด้วยนะ แต่เหมือนจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม(มั๊ง)

จากที่ได้ลองเล่นทั้ง 2 แบบ เอาจริงๆ รู้สึกว่าสโนว์บอร์ด ทรงตัวง่ายกว่าแต่เบรคโดยที่ไม่ล้มยากกว่า (สำหรับมือใหม่ 555) แล้วก็เวลาเดินค่อนข้างลำบาก เพราะ ขาอีกข้างต้องเกาะที่บอร์ดไว้ ส่วนขาอีกข้าง ปล่อยเดิน (หนักอะ) ตัวสโนว์บอร์ดไม่รู้ทำไม เวลาเบรคมันชอบหยุดกึ๊ก แล้วไม่หัวทิ่มหน้าคะมำ ก็ตูดลงกระแทกพื้น = ="

ส่วนสกีเวลาเดินจะง่ายเบากว่า แต่ก็ง่ายกับการที่ขาจะแบะออกจากกันด้วย ^ ^" เวลาเบรคมันจะค่อยๆหยุด (จริงๆเรียกเบรคไม่อยู่ดีกว่า 555) ไม่หยุดกึ๊กแบบสโนว์บอร์ด คือเห็นคนอื่นเค้าเบรคแบบ สะบัดตัวสวยงาม โอ๊วว ทำไมชั้นหันแล้วมานไม่หยุดแบบเค้า ตอนล้มแปลกดี ไม่เจ็บแบบสโนว์บอร์ด น่าจะเพราะ ว่าล้มแบบตัวไหลไถลไปตามทางไม่ใช่แบบหยุดกึ๊กกับที่เลยไม่เจ็บเท่าไหร่ ชอบสกี ตรงที่ถอดตัวสกีออกจากร้องเท้าง่ายดี ไม่ต้องคอยก้มลงไปถอดแบบสโนว์บอร์ด เอาไม้จิ้มๆแทงๆได้เลย เวลาใส่ก็แค่เสียบเท้าแล้วกระทืบลงไปมันจะมาล๊อคที่รองเท้าเราพอดี สะดวกดี



ตอนที่เราล้ม มีเด็กคนนึงเดินมาหาเรา น่ารักมากกก เด็กผู้ชายอายุน่าจะประมาณ ขวบกว่าๆได้ มาถามเรา Are you ok? แบบทำหน้าเป็นห่วงมาก แล้วบอกว่าเค้าไม่กล้าเล่นหรอก ระวังดีๆนะ ล้มมันเจ็บอะไรอย่างโน้นอย่างนี่ แบบพูดแบบเป็นห่วงเราได้น่ารักมากๆ น้องเป็นคนไทยนะ แต่คงเกิดที่นี่เลยพูดได้แต่ภาษาอังกฤษ ไม่รู้จักกันหรอก แต่ไม่แน่ใจว่าแม่หรือป้าเค้าอยู่แถวนั้น เค้าบอกว่าน้องฟังภาษาไทยออกแต่พูดไทยไม่ได้ ไหนๆก็ล้มแล้ว เราเลยเล่นปาหิมะกับน้องเค้า 555 น่ารักอะ น่าเอากลับบ้านด้วยมากๆ ><

เล่นไปซักพักเริ่มหิว ก็แอบไปหาอะไรกินในโรงอาหาร น้องๆทะยอยเลิกเล่นกันแล้ว น่าจะกลิ้งกันจนเหนื่อย ส่วนเรากินเสร็จก็ไปเล่นต่ออีกซักหน่อยเล่นจน 4โมงครึ่งเลย

จากที่จับได้คือ เล่นไม่ยาก แต่ปัญหาคือความกลัว พอมันลงมาเร็วๆ จะเริ่มกลัวขึ้นมา ไม่ว่าจะกลัวล้ม กลัวชนคนอื่น หรือแม้แต่มันจะไหลเข้าป่า 555 พอกลัวปุ๊บ เราจะเริ่มพยายามเบรคเพื่อลดความเร็ว จังหวะนี้แหละ ที่จะล้ม ^ ^" เพราะเบรคยังไม่เป็น เรากะว่าจะหัดเบรคให้ได้ก่อนค่อยขึ้นกระเช้าไปลองเล่น สรุปว่า จนเลิกก็ยังเบรคไม่ค่อยอยู่ 555 สงสัย ต้องมาหัดบ่อยๆ กว่าจะเบรคได้ ที่ต้องแก้ให้ได้คือต้องเลิกกลัวนี่แหละ (จะทำได้มั๊ยเนี๊ย)

เล่นเสร็จก็ได้เวลาไปคืนของ พอถอดรองเท้าเท่านั้นแหละ โหย เท้าเบามาก สวรรค์ เพราะรองเท้าที่ใส่เล่นสกีมันหนักโคตรๆ หนักกว่ารองเท้าสโนว์บอร์ด (แต่สโนว์บอร์ดมันหนักบอร์ด ^ ^") แล้วก็ได้เวลาขับรถกลับแล้วซิ เวลาแห่งความสนุกหมดลงแล้ว ไว้มีโอกาสคงได้กลับมาเล่นอีก



เขียนโดย LinZ : KhonThiaAmerica.com


ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-5-5 03:56 , Processed in 0.034309 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน