KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 5590|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

เมืองที่เดินทางสะดวกสบายโดยรถสาธารณะ

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

        

gtpic_233.jpg


      เคยได้ยินกันมั้ยว่า การมาเรียนที่อเมริกาต้องมีรถ ไม่งั้นจะไปไหนมาไหนไม่สะดวก แต่ก็ยังมีเมืองใหญ่บางเมือง ที่เราไม่ต้องซื้อรถเลยก็ได้ เหมาะมากสำหรับคนที่มาเรียนไม่ถึงปี


1. San diego
San Diego เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของรัฐแคลิฟอร์เนีย และอันดับที่ 8 ในสหรัฐอเมริกา มีประชากรโดยประมาณ 1,345,895 คนในปี 2014 เมืองชายฝั่งนี้ตั้งอยู่ในซานดิเอโกเคาน์ตี ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอย่างเมืองลาโฮย่า (La Jolla) และ คาร์ลสแบด (Carlsbad) จากการสำรวจของฟอร์บ เมืองซานดิเอโกนี้ก็อยู่อันดับ 5 ในเมืองที่รวยที่สุดในสหรัฐ อุตสาหกรรมหลักของซานดิเอโกคือ สิ่งทำมือ, การทหาร และการท่องเที่ยว อยู่ติดทะเล อากาศสบายตลอดปีไม่ร้อนจัดหนาวจัด มีกิจกรรมทางทะเลมากมาย การเดินทางสะดวกปานกลางนะคะ เมืองสวยสะอาดมากค่ะ


2. Seattle
Seattle เป็นเมืองท่าชายฝั่งในรัฐวอชิงตัน, สหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแปซิกฟิคตะวันตกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลสาบวอชิงตัน อยู่ห่างจากชายแดนสหรัฐอเมริกา - แคนาดา 154 กิโลเมตร  ไม่ค่อยมีแดด ไม่วุ่นวาย  อากาศสบายๆ เดินทางสะดวก คนไทยไม่เยอะมาก ธรรมชาติเยอะ


3. Philadelphia
Philadephia หรือที่ เรียกกันว่า Philly หรือ The City of Brotherly Love เป็นเมืองหลวงแห่งแรก ของ America เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเพนซิลเวเนีย และเป็นเมืองที่พลเมืองหนาแน่นที่สุดเป็นอันดับ 6 ของสหรัฐอเมริกา และเป็นเมืองที่มีพื้นที่เมืองจากประชากรเป็นอันดับ 5[1] และมีผู้บริโภคสื่อมากเป็นอันดับ 4 จากการสำรวจของนีเซน มีเดีย รีเสิร์ช และเป็นเมืองที่มีพลเมืองหนาแน่นเป็นอันดับที่ 49 ของโลก


4. Houston
Houston เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่สุดในรัฐเทกซัส และเมืองขนาดใหญ่อันดับสี่ของสหรัฐอเมริกา ฮิวสตันเป็นที่รู้จักในชื่อเสียงของอุตสาหกรรมพลังงาน น้ำมัน อากาศยาน และการขนส่งทางเรือ ท่าเรือในฮิวสตันเป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับหกของโลก


5. Boston
เป็นเมืองหลวงของรัฐแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐอเมริกา และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตนิวอิงแลนด์ บอสตันเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุด มั่งคั่งที่สุด และมีวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ธุรกิจที่สำคัญในบอสตัน ได้แก่ การศึกษา สถานพยาบาล การเงิน และเทคโนโลยี เมืองสวย เดินทางสะดวก


6. New York
เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก เป็นมหานครเอกของโลก จัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การเงิน วัฒนธรรม บันเทิง ที่สำคัญที่สุดของโลก เป็นเมืองที่มี ตึกระฟ้า ตึกสูงมากที่สุดในโลก ตลอดระยะเวลา 150 ปี และยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ อีกด้วย


7. Portland
ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของรัฐออริกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2008 คาดว่าจะมีประชากรประมาณ 575,930คน ทำให้พอร์ตแลนด์เป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับที่ 30 ของสหรัฐอเมริกา และยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่ร่มรื่นที่สุดในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย เหมาะสำหรับปั่นจักรยาน


8. San Francisco
คือเมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีประชากร ประมาณ 808,976 คน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความหนาแน่นประชากรเป็นอันดับสองของประเทศ เมืองซานฟรานซิสโกตั้งอยู่บริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก อากาศสบายๆ


9. Washington DC
Washington, D.C. โดยตัวย่อ D.C. ย่อมาจาก District of Columbia เขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย) เป็นเมืองหลวงของสหรัฐอเมริกา ติดต่อกับรัฐเวอร์จิเนียและรัฐแมริแลนด์ โดยวอชิงตัน ดี.ซี. อยู่ในเขตฝั่งซ้ายของแม่น้ำพอตอแมก (Potomac River)


10. Chicago
เป็นเมืองตั้งอยู่ในรัฐอิลลินอยส์ รู้จักกันในชื่อ "เมืองแห่งลม" (Windy City) ชื่อเล่นนี้ มีที่มาจากการที่นักข่าวเขียนล้อเลียนนักการเมืองของ ชิคาโกใน ศตวรรตที่ 19 เกี่ยวกับการพูดจากลับกลอกไปมา บางคนเชื่อว่ามีที่มาจากการที่เป็นเมืองที่มีลมพัดแรงตลอดเวลาแต่ไม่ได้มีหลักฐานใดๆเขียนสนับสนุนทฤษฎีนี้ ชิคาโกเป็นเมืองใหญ่อันดับสามในสหรัฐอเมริกาเทียบตามจำนวนประชากร รองจากเมืองนิวยอร์ก และลอสแอนเจลิส เมืองชิคาโกตั้งอยู่ในเคาน์ตีคุก รัฐอิลลินอยส์ เขตมิดเวสต์ของสหรัฐอเมริกา เมื่อรวมเคาน์ตีรอบ ๆ ชิคาโกทั้ง 8 เคาน์ตีจะเรียกเขตว่า ชิคาโกแลนด์ ซึ่งมีประชากรประมาณ 9 ล้านคน ชิคาโกการเดินทางสะดวกมากๆ มีรถไฟฟ้าวิ่งตลอด แถมค่าเช่าบ้านก็ไม่แพง ใครชอบบรรยากาศแบบเมืองใหญ่ ไม่แพง มีหิมะ แนะนำเมืองนี้จ้าา



ถ้าใครสนใจเรียนที่สถาบันสอนภาษาที่เมืองเหล่านี้  สามารถติดต่อเราได้ค่ะทางเรามีส่วนลดค่าเรียนราคาพิเศษ ราคาเอเจนซี่ (ถูกกว่าสมัครเรียนเองค่า)ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะhttp://www.khonthaiamerica.com/contacts/

หรือที่ Facebook :
https://www.facebook.com/KhonThaiAssociationOfAmerica




ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-5-2 04:54 , Processed in 0.030248 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน