11/5/2013

            หลังจากย้าย Apartment ใหม่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราสั่งสินค้าออนไลน์ หลังจากมาที่นี่ไม่นาน เราก็สั่งของจาก อเมซอนมา 3 ชิ้น แล้วของก็ได้ทุกชิ้น ด้วยการ คนส่งของเปิดประตูทางเข้าด้านล่าง (ปกติมันจะปิดไม่สนิทจะแง้มๆไว้) เอาของมาโยนไว้ให้ข้างในบ้าง ของชิ้นเล็กๆ ก็หย่อนใส่ตู้จดหมายบ้าง ตอนติดต่อเรื่องติด Internet กับ AT&T เค้าเอาเร๊าท์เตอร์มาส่งให้ที่บ้าน ด้วยการฝากไว้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นข้างล่าง (ห้องเราอยู่ชั้น 2 ชั้น 1 เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น) เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น(คนไทย) มาแปะโน๊ตบอกตรงกล่องจดหมายเราว่า มีพัสดุของเราให้มาเอาในร้าน  ตอนนั้นเราก็ไปเอาไม่มีปัญหาอะไร (คาดว่าของส่งแบบต้องมีคนเซ็นต์ เค้าเลยเอาไปให้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเซ็นต์รับให้)

             แต่ปัญหามันมาหลังจากนั้น แม่เราสั่งไส้กรองเครื่องกรองน้ำมาให้เรา ปรากฏว่าหาย หาไม่เจอ เนื่องจากเลขส่งของอยู่กับแม่ ทำให้เราเช็คไม่ได้ ว่าของมาส่งถึงวันไหน มารู้อีกทีหลังจากเค้ามาส่งมาให้ 7 วันแล้ว อืม... ของคงไม่รู้จะหายไปไหนแล้ว แม่โทรไปถามคนมาส่ง เค้าบอกว่าเห็นประตูหน้าปิด เค้าเอาของวางไม่ได้ เค้าเลยมาส่งให้ด้านหลังบ้าน (ประตูทางเข้ามีด้านหน้ากับด้านหลัง) แล้วมันผ่านมา 7 วัน ไม่เหลืออะ หาไม่เจอ  ดีที่ทางร้านยอมส่งไส้กรองมาให้ใหม่อีกรอบ เราเลยไม่ติดใจตามอะไรมาก คราวนี้เพื่อความชัวร์เราเลยให้ส่งไปที่อยู่น้องสาว

            ล่าสุดเราสั่งบลูทูธมาจากเว็บไซต์นึง รอบนี้เช็คตลอดว่าของจะมาถึงตอนไหน เผอิญวันที่ของจะมาเราต้องออกไปทำธุระ กลับมาถึง apartment ประมาณ 4 โมงเย็น มาถึงก็ สำรวจทุกประตู ไม่เห็นของ จากนั้นเราก็มาเช็คในคอม มันบอกของส่งแล้วตอน 3.01 PM O_O"

            ซวยละไง แล้วของอยู่ไหนละทีนี้ เราวิ่งลงไปถามร้านอาหารญี่ปุ่นข้างล่าง เจอเจ้าของร้าน เราก็ถามว่าเห็นคนมาส่งพสดุมั๊ย เค้าก็บอกว่าไม่เห็น  ไม่เห็นมีอะไรมาส่ง (แต่เค้าไม่ถามคนอื่นๆให้เราเลยนะว่าเห็นป่าว) เราพยายามจะโทรไปถามที่ไปรษณีย์ แต่เจอแต่ระบบฝากข้อความ สรุปตัดสินใจ  จดหมายเลขพัสดุเรา แล้วเดินไปถามมันเลยที่ไปรษณีย์ (พอดีอยู่ไม่ไกลจากบ้าน)

           ภาษาเราก็กระท่อนกระแท่น แต่พอจะสื่อสารกันรู้เรื่อง เค้าขอเลขพัสดุ ชื่อและที่อยู่เรา จากนั้นก็เอาไปเช็ค เค้าเช็คนั้นโน้นนี่ สรุปบอกว่าของไปส่งแล้ว ดูในถุงก็ไม่มีของเหลือ เราเลยบอกเค้าว่า ครั้งอื่นๆไม่มีปัญหานะเคยสั่งของมาหลายชิ้นแล้ว แต่นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่มีปัญหาของหาย เค้าเลยให้เบอร์โทรมา แล้วบอกว่าให้โทรมาตอน 8.00-9.30 am วันพรุ่งนี้ ให้คุยกับคนส่งของเลย ถ้าโทรสายกว่านี้คนนั้นเค้าจะออกไปส่งของ

          ตอนเช้าตื่นมาก็จัดการโทร แต่ มันดังแบบสายไม่ว่าง T^T โทรกี่ทีก็ไม่ติด ไม่ได้การแล้ว ดูนาฬิกา 9.10 am แล้ว เรารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า (ฟันยังไม่ได้แปรง หน้ายังไม่ได้ล้าง) แล้วรีบเดินไปที่ไปรษณีย์ทันที ไปถึง ก็บอกเค้าว่าเราพยายามโทรแล้ว แต่ว่าสายไม่ว่างเลย เค้าก็เรียกคนส่งของมาคุยกับเรา

          คนส่งของเป็นสาวผิวดำรูปร่างผอม ผมหน้าม้าตัดสั้น (ทรงเดียวกับมารุโกะ) เห็นแล้วชวนให้นึกถึงอาจารย์สมัยเรียนมหาลัยจริงๆ (ผมทรงเดียวกันเด๊ะเลย)
เธอออกมาคุยกับเรา พร้อมบอกกับเราว่า เค้าส่งให้เราแล้ว โดยการฝากไว้กับร้านซูชิข้างล่าง  บอกเราด้วยว่าซองเป็นสีขาวๆเค้าจำได้ เราก็เลยถามเค้าว่า เค้าเอาให้กับใคร เราจะได้ไปถามกับคนนั้น (เพราะตอนเราไป เจ้าของร้านบอกว่าไม่มี) เค้าก็บอกว่า ให้กับคนที่ยืนทำอาหารตรงเค้าท์เตอร์ (คาดว่าจะเป็นคนทำซูชิ ซึ่งเป็นคนแมกซิกัน) แล้วเค้าก็ขอเบอร์โทรเรา เค้าบอกว่าถ้าเค้าไปส่งของเค้าจะโทรมาหาเรา

            เราเดินกลับบ้าน พร้อมกับชะโง้กเข้าไปดูในร้านว่ามีใครอยู่ในร้านรึเปล่า แต่ร้านยังไม่เปิดปกติจะเปิดช่วงเย็น เราเลยกลับขึ้นมาบนห้องกะว่าเย็นๆจะลงไปถาม ประมาณบ่าย 3 โมงเย็น คนส่งของก็โทรมาหาเรา  เค้าถามเราว่าได้ของรึยัง เราก็บอกยังไม่ได้ เพราะตอนเช้าร้านปิด เค้าก็บอกเราว่าตอนนี้อยุู่ข้างล่างให้ลงมาหาเค้า เราก็เลยลงไปหา เค้าเลยเดินเข้าไปในร้าน มีแม็กซิกันนั่งเฝ้าร้านอยู่ 1 คน เพราะยังไม่ได้เวลาเปิดร้านจริงๆ แล้วเค้าก็มองๆชะโงกหา แล้วก็บอกว่า นี่ไงของอยู่ตรงนี้ พร้อมชี้ให้ดู ของอยู่ตรงเค้าเตอร์วางของ ซึ่งก็อยู่ด้านหลังเจ้าของร้านที่เค้านั่งอยู่ตอนที่เราเดินมาถามหาของ - -* (เจ้าของร้านเค้าคงไม่รู้ว่าเด็กเค้ารับของไว้เลยบอกไม่รู้ไม่เห็น T^T) เค้าก็หยิบมาแล้วถือมาให้เราเลย

            สรุป เราก็ได้ของของเราซักที ดีใจมากอะ ถึงของจะไม่แพง แต่มันก็เสียดาย คิดถูกจริงๆที่เดินไปถามถึงที่ไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่เค้าก็ดีนะ พยายามช่วยเหลืออย่างดี แล้วเค้าก็บอกเราว่า ถ้ามีของเรามา เค้าจะโทรมาบอกเราละกัน

            ถ้าใครเจอปัญหาแบบนี้ก็อย่าพึ่งหมดหวังกับการตามหาพัสดุตัวเองนะคะ ลองตามดู เผื่อจะได้ของคืนแบบเรา