KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
ดู: 4605|ตอบกลับ: 0
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

ตัวอย่างค่าสินค้าและบริการใน "อเมริกา"

[คัดลอกลิงก์]

1188

กระทู้

4

ติดตาม

6160

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8



     อย่างที่รู้ๆ กันสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่มากกกกกกกกกก แต่ละเมืองในประเทศจึงมีค่าครองชีพที่ต่างกันมาก มีทั้งเมืองที่ค่าครองชีพแพงอย่างนิวยอร์คซิตี้ วอชิงตันดีซี และซานฟรานซิสโก และเมืองที่ค่าครองชีพถูกอย่างเมืองกรีนเบย์ รัฐวิสคอนซินที่มีค่ารถถูกกว่าในไทยเยอะมาก การจะคำนวณค่าครองชีพ ราคาของแต่ละอย่างต่างกันมากจริงๆ แถมภาษีมูลค่าเพิ่มแต่ละรัฐไม่เท่ากันอีก ดังนั้นในบทความนี้จะเน้นไปที่ค่าสิ่งของและค่าบริการที่เป็นราคาเฉลี่ยของทั้งประเทศแบบไม่คิดภาษีเป็นหลักนะคะ


baccalaureat success girl HR.jpg

blog.yanidel.com



ค่าแรงขั้นต่ำ
      ค่าแรงขั้นต่ำของอเมริกาอยู่ที่ 7.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง (ประมาณ 250 บาท) บางรัฐอาจจะให้สูงกว่านี้ แต่ห้ามให้ต่ำกว่านี้เด็ดขาด ถ้าเป็นงานประเภทต้องได้ทิปอาจจะเขียนว่าให้ค่าจ้างชั่วโมงละ 2 ดอลลาร์นิดๆ ก็ได้ แต่ต้องมีหมายเหตุด้วยว่าเมื่อรวมทิปแล้วต้องได้อย่างน้อย 7.25 ต่อชั่วโมงอยู่ดี วันนึงทำงาน 8 ชั่วโมง รายได้ก่อนหักภาษีก็ตกวันละ 58 ดอลลาร์หรือประมาณ 2,030 บาทแน่ะ


ค่าอาหาร
      ถ้าเป็นอาหารชุดมื้อนึงของร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วไปอย่างแมคโดนัลด์และเคเอฟซีก็จะอยู่ที่ประมาณ 5.50-8 ดอลลาร์ค่ะ ขึ้นกับเมนู ซึ่งเทียบแล้วก็แพงกว่าที่บ้านเราไม่มากนัก ของเราชุดอิ่มเต็มที่สำหรับคนเดียวจะประมาณหนึ่งร้อยปลายๆ ถึงสองร้อย แต่ของที่นั่นจะประมาณ 200-300 บาทค่ะ แต่ถ้าอยากกินอาหารไทยอย่างข้าวมันไก่หรือผัดไทย ก็จะแพงเหมือนเป็นอาหารฝรั่งในเมืองไทยค่ะ ส่วนมากจานนึงจะอยู่ที่ 7-10 ดอลลาร์ หรือประมาณ 245-350 บาทค่ะ บางรัฐหรือในร้านไฮโซๆ ก็จะแพงกว่านี้อีก ส่วนเครื่องดื่มไทยๆ อย่างชาไทยเย็นหรือน้ำเก๊กฮวยส่วนมากจะอยู่ที่ประมาณแก้วละ 3-4 ดอลลาร์ (100-140 บาท) บางร้านก็อาจจะถูกกว่านี้นะคะ


ค่าน้ำดื่ม
     พื้นที่ส่วนใหญ่ในประเทศสามารถดื่มน้ำจากก๊อกได้เลย แต่มันก็มีรสชาติแปร่งๆ ที่ไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ (บางเมืองอาจถึงขั้นดื่มไม่ได้) ส่วนมากน้ำดื่มบรรจุขวดที่ขายจึงเป็นน้ำแร่หรือน้ำผ่านกรรมวิธีบางอย่างให้ดูไฮโซกว่าน้ำจากก๊อกค่ะ ราคาก็แล้วแต่ยี่ห้อ น้ำดื่มยี่ห้อดังๆ ก็ Aquafina กับ Dasani ราคาขวดละประมาณ 1.75 ดอลลาร์สำหรับไซส์ 1.5 ลิตรค่ะ (61.25 บาท) ซื้อเป็นแพ็คก็จะถูกกว่า นอกจากนี้ก็มีน้ำผสมกลิ่นผลไม้และวิตามินต่างๆ ที่นิยมดื่มกัน เช่นน้ำเปล่ารสเบอร์รี่ รสมะม่วง รสองุ่น จะเป็นน้ำใสๆ เหมือนน้ำเปล่าเลย ขวด 1.5 ลิตรราคาประมาณ 1.60 ดอลลาร์ (56 บาท) ส่วนนมจืดขวดลิตรจะราคาประมาณ 0.90 ดอลลาร์ค่ะ (31.50 บาท) ทั้งนี้ก็ขึ้นกับยี่ห้อและชนิดของนมด้วย


ค่ารถไฟใต้ดิน
     มาดูเรื่องการเดินทางกันบ้างค่ะ ค่ารถไฟหรือรถเมล์แต่ละเมืองต่างกันมากเลย บางสายคิดแบบเพิ่มตามระยะทาง บางสายคิดแบบราคาเดียวตลอดสาย บางที่มีตั๋วรายเดือนให้ก็จะมีราคาต่อเที่ยวถูกกว่าซื้อแบบรายเที่ยว เมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในสหรัฐอย่างนิวยอร์คซิตี้คิดค่าโดยสารรถไฟใต้ดินหรือรถเมล์เที่ยวละ 2.75 ดอลลาร์ (เกือบ 100 บาทต่อเที่ยว) ถ้าซื้อตั๋วรายเดือนก็อยู่ที่เดือนละ 116.50 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4 พันกว่าบาทค่ะ เมืองอื่นๆ ก็จะราคาถูกกว่านี้


ค่าจักรยาน
     แต่เดี๋ยวนี้การปั่นจักรยานไปเรียนหรือไปทำงานเป็นเทรนด์ฮิตในหลายเมืองแล้วค่ะ ซึ่งจักรยานดีๆ ที่นั่นไม่แพงเลย จักรยานเสือภูเขา 26 นิ้ว 21 สปีดมีราคาโดยเฉลี่ยตั้งแต่ 79-149 ดอลลาร์ (2,765-5,215 บาท) ราคาขึ้นกับรุ่น ลวดลาย และออปชั่นเสริม แต่คุณภาพของ 79 ดอลลาร์ถือว่าโอเคเลย ใช้ปั่นขึ้นเขาแบบลุยๆ ได้ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ และถ้าเราจะกลับไทยก็สามารถขายต่อได้ไม่ยากนะคะ ขายรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยหรือขายเพื่อนในที่ทำงานต่อก็ได้ค่ะ เรื่องราคาก็ตามสภาพว่าเราใช้งานไปหนักแค่ไหน


ค่ารถบัส
     ข้ามมาดูการเดินทางไกลกันบ้างค่ะ สหรัฐเป็นประเทศที่มีขนาดพื้นที่เยอะมาก บางรัฐมีขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยทั้งประเทศด้วย การเดินทางภายในรัฐเดียวกันยังใช้เวลานานอย่างกับเดินทางข้ามประเทศเลยค่ะ เราลองมาเทียบราคารถทัวร์กันนะคะ รถทัวร์กรุงเทพ-เชียงรายใช้ระยะทางประมาณเกือบ 800 กิโลเมตร ราคาประมาณ 600-800 บาท ระยะทางนี้ใกล้เคียงกับระยะทางจากเมืองซานดิเอโก้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปยังเมืองซานฟรานซิสโกที่อยู่รัฐเดียวกัน ซึ่งสามารถโดยสารรถบัสทางไกลอย่าง Greyhound ไปได้ ราคาค่าโดยสารอยู่ที่ 57-64 ดอลลาร์ค่ะ (ประมาณ 1,995-2,240 บาท) ต่างกันเกินเท่าตัวเลย

ค่าตั๋วเครื่องบิน
     ถ้านั่งรถบัสข้ามวันข้ามคืนแล้วเสียเวลาเกินไป สามารถบินในประเทศแทนได้ค่ะ อเมริกามีสายการบินที่ให้บริการเส้นทางในประเทศเยอะมากจริงๆ แต่ละเจ้าก็ส่งโปรโมชั่นมาแย่งลูกค้ากันอยู่เรื่อยๆ ลองเสิร์ชเทียบราคาดูนะคะ แต่ในที่นี้จะขอเทียบเป็นเส้นทางบินตรงระหว่างหาดใหญ่-เชียงรายละกันนะคะ หาดใหญ่-เชียงรายห่างกันประมาณ 1,450 กิโลเมตร ตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัดแบบไม่รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าและออปชั่นเสริมอื่นๆ อยู่ที่ประมาณ 1,300 บาทค่ะ ระยะทางนี้ใกล้เคียงกับเส้นทางบินตรงจากวอชิงตันดีซีไปยังเมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้าค่ะ (1,485 กิโลเมตร) ราคาตั๋วชั้นประหยัดแบบไม่รวมน้ำหนักกระเป๋าอยู่ที่ 69 ดอลลาร์ (2,415 บาท) ก็ไม่ต่างกันจนน่ากลัว ถ้ามีโปรโมชั่นก็จะถูกกว่านี้อีก


ค่าเข้าอุทยาน
     กิจกรรมหนึ่งที่ชาวอเมริกันชอบกันมากก็คือการไปตั้งแคมป์ตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ ค่ะ ค่าเข้าอุทยานแบบรายคนสำหรับคนที่เดินเท้าหรือปั่นจักรยานเข้าไปจะอยู่ที่ 15 ดอลลาร์ต่อคน (525 บาท) หรือถ้ารวมกลุ่มไปกับเพื่อนเป็นคันรถจะได้ราคาเหมาคันละ 30 ดอลลาร์สำหรับรถที่มีผู้โดยสารไม่เกิน 15 คน โดยที่ไม่ต้องเสียค่าเข้าเป็นรายคนอีก อุทยานแห่งชาติในสหรัฐมีในหลายรัฐเลยนะคะ บางที่ก็มีหิมะหนา บางที่เป็นหินแดงๆ แห้งๆ ตามหุบเขา บางที่เป็นป่าเขียวชะอุ่ม ชอบแบบไหนก็เลือกไปที่อุทยานนั้นๆ เลยค่ะ


ค่าตั๋วภาพยนตร์
      โรงหนังในอเมริกาก็มีหลายเกรดเหมือนบ้านเราค่ะ มีตั้งแต่โรงหนังท้องถิ่นที่ฉายอยู่สองเรื่องในแต่ละสัปดาห์ แถมเป็นเก้าอี้แข็งๆ ไปจนถึงโรงหนังสไตล์ห้างแพงๆ เลย ดังนั้นราคาจึงหลากหลายมาก มีตั้งแต่ 7 ดอลลาร์ไปจนถึง 12 ดอลลาร์ ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 8.70 ดอลลาร์หรือประมาณ 305 บาทสำหรับระบบดิจิตอล 2 มิติที่นั่งธรรมดา


ค่าโทรศัพท์
     ปิดท้ายกันด้วยราคาค่าบริการโทรศัพท์ค่ะ เครือข่ายดังๆ ที่นั่นก็มี AT&T, T-Mobile แล้วก็ Verizon  แต่ก่อนที่น้องๆ จะไปซื้อซิมให้ตรวจสอบก่อนนะคะว่าที่ที่เราจะไปอยู่สัญญาณเครือข่ายไหนดีที่สุด ไม่งั้นซื้อไปแล้วจะหงุดหงิดเอานะคะ ส่วนมากโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ จะมีโปรโมชั่นขายพร้อมแพ็คเกจรายเดือน ถ้าใครไปอยู่นานซื้อแบบนี้ก็คุ้มค่ะ แต่ถ้าไปไม่นานและเรามีมือถือไปอยู่แล้วก็ซื้อเฉพาะซิมได้ แต่ละค่ายมีแพ็คเกจที่ใกล้เคียงกันอย่างตอนนี้ AT&T และ T-Mobile มีแพ็คเกจ Internet เดือนละ 5 GB พร้อมโทรและส่งข้อความไม่จำกัดราคา 50 ดอลลาร์ (1,750 บาท) ส่วน Verizon มีเป็น 6GB ราคา 60 ดอลลาร์ (2,100 บาท) แต่ก็มักมีออปชั่นให้แชร์เน็ตกันได้หลายๆ เครื่อง ถ้าอยู่กันหลายคนก็หารกันได้ค่ะ

       เห็นราคาของแต่ละอย่างคร่าวๆ แล้วเป็นยังไงบ้างคะ อย่างที่บอกไปว่าค่าครองชีพแต่ละเมืองแตกต่างกัน ของบางอย่างจึงอาจถูกกว่าหรือแพงกว่านี้ก็ได้ค่ะ ดังนั้นจะเดินทางไปเมืองไหนให้ตรวจสอบข้อมูลเฉพาะของเมืองนั้นๆ อีกทีนะคะจะได้ไม่พลาด โดยส่วนตัวคิดว่าราคาอะไรเหล่านี้ไม่ถือว่าแพงเพราะมันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผลกับค่าแรงบ้านเขา ทำงานชั่วโมงเดียวก็กินอาหารชุดในร้านฟาสต์ฟู้ดหรือซื้อตั๋วหนังได้แล้ว จริงๆ ตั๋วหนังในไทยถือว่าแพงกว่าอีก ค่าแรงขั้นต่ำบ้านเราต้องทำงานหลายชั่วโมงเลยนะคะถึงจะตั๋วหนัง



ที่มาบทความ http://www.dek-d.com/studyabroad/40622/

ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-4-20 20:52 , Processed in 0.032693 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน