KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

 ลืมรหัสผ่าน
 ลงทะเบียน
ค้นหา
แท็กยอดนิยม: ภาษาไทย แจก discuz
เจ้าของ: Livekernelevent

ประสบการณ์ทำธุรกิจคนไทยในอเมริการุ่นบุกเบิก

[คัดลอกลิงก์]

71

กระทู้

16

ติดตาม

2710

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

โพสต์เมื่อ 2012-10-28 03:08:32 |ดูโพสต์ทั้งหมด
เพราะตอนทำสัญญา พวกเราไม่มีใครว่าง
ศรีไปทำคนเดียวกับยายมิสซิสปาร์คตัวแกเองก็ออกจะเอื้อเอ็นดูพวกเราอย่างมากมาย
เรียกแต่ละทีก้อหวานเพราะเสนาะหู “มายดาร์ลิ่งส์” อย่างงั้น   “มายเบบี้ส์” อย่างงี้...
พร้อมออกจะพูดบ่อยๆ ว่า...ดีใจที่มีพวกเราอยู่ใกล้ๆ แกก็หวังจะได้พึ่งเป็นหูเป็นตา ด้วยว่า แกน่ะ แก่แล้ว กะจะฝากผีฝากไข้กับพวกเรา ว่างั้นเถอะ
แต่แล้วอะไรกันนี่...เพียงแค่ไม่กี่เดือน จดหมายขับไล่
ส่งมาวางอยู่ตรงหน้านี่เอง...

ศรีพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า...ที่ทำอย่างนั้นเพราะ
มิสซิสปาร์คเจ้าเล่ห์หว่านล้อมว่า..ศรีไม่ควรจะผูกมัดตัวเอง
ถ้าเกิดร้านไปไม่รอด เพื่อนฝูงทิ้งไปคนละทางสองทาง
ศรีจะได้ไม่ต้องแบกภาระกับร้านเป็นปีๆ
และตัวแกเอง ไม่มีวันที่จะ “ทำร้ายจิตใจ” พวกเราแน่นอน
เอาเป็นสัญญาง่ายๆ เดือนต่อเดือน อย่างกับเช่า
อพาร์ตเม้นท์ ก็แล้วกัน...

ศรีก็หลงในคารม ด้วยความที่อ่อนต่อโลก และมองเห็นว่า คนแก่ๆ ไม่น่าจะมีพิษมีภัยกระมัง
สัญญาเช่านั้น จึงได้ออกมาในรูปฉะนี้!!

และบัดนี้...ร้านเล็กๆ ของเรามันไม่ใช่ร้านเน่าๆ
อย่างที่เคยเป็นร้านแซนวิชมาก่อน
ด้วยฝีมือบวกมันสมองของพวกเรา...และกลุ่มหนุ่มพรรคเหลือขอ..เนรมิตมันให้กลายมาเป็นเป็นร้านเล็กๆ
ที่ดูออกจะดีและสดใสด้วยสไตล์ไทยๆ
และที่สำคัญ ขณะนี้ธุรกิจของเรานั้นกำลังเป็นที่กล่าวขวัญฮือฮาคนแน่นเต็มร้านทุกคืน
ในละแวกนั้น..ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นที่อยู่อาศัยร้านรวงไม่ค่อยจะมี
กลางคืนนั้นเงียบเชียบราวป่าช้า
และตั้งแต่มีร้านเรามาเปิดอยู่ผู้คนเริ่มออกมาเดินเล่น ไป-มา
จนหัวมุมถนนใกล้ๆ มีคนหัวใสมาเปิดร้านกาแฟเล็กๆ สไตล์ฝรั่งเศส ลูกค้าที่ออกไปจากร้านเรา
บางคนก็จะอ้อยอิ่งจิบกาแฟที่ร้านนั้นต่อ...นั่นแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจเริ่มหลั่งไหลมาสู่เส้นทางสายนี้แล้ว

มิสซิสปาร์คก็คงมองเห็นเช่นกัน...จึงรีบคายพิษออกมาเสียแต่บัดนี้...สาเหตุ คือมาจากความมักได้ สถานเดียว
แกให้เราออกไปเพื่อหาคนเช่าใหม่
ในราคาที่มากกว่าอาจเป็นเท่าตัว!!
และเนื่องจากสภาพของร้านพร้อมเข้าประกอบการได้ทันทีแกสามารถเรียกค่ามัดจำได้แพงๆ
                 
ฉันและตุ่ม ไม่ได้ตีโพยตีพายอะไรมากนัก
อย่างน้อยเราก็ได้เงินคืนมาพร้อมกำไรไม่ใช่น้อยแล้วและเราก็คิดคล้ายๆ กันว่า...ดีเหมือนกัน จะได้กลับไปเรียนหนังสือหนังหากันซะที!!

แต่ศรี ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้ กระซิกๆ
ด้วยเสียดายร้านที่เป็นความฝันของมัน
อีกทั้งด้วยความเจ็บใจที่เสียรู้ ยายแก่สารพัดพิษ
อย่างมิสซิสปาร์ค
สักเพียงแค่ชั่วอึดใจจึงเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับดวงตาที่แดงก่ำเต็มไปด้วยน้ำตาและความโกรธแค้น
มันว่า...
“ยังไง ยังไง เราก็ไม่ยอม พวกแกจำได้ไหมว่า
ยายแก่นั่นพูดกับเราไว้ว่าอย่างไร??”
“จำด๊าย เต็มสองรูหูเลยละ ก็เพิ่งไม่นานนี้เอง”
ฉันและตุ่มขานรับในอารมณ์ขัดเคืองประมาณกัน
“มันบอกว่า...พวกยูนี่น่ารักจัง ทำร้านเสียน่าเอ็นดู
ช่วยกันอย่างขยันขันแข็ง ฉันเห็นแล้วดีใจหวังว่าพวกยูคงจะประสบความสำเร็จ ฉันเอาใจช่วยเต็มที่ มีอะไรขาดเหลือก็บอกได้นะ...”
น่านไง เห็นม๊ะ... มันพูดมาต่อหน้าพวกเราทุกคนหยั่งงี้
แล้วจะมาไล่กันง่ายๆ ได้อย่างไร เราต้องพึ่งทนายแล้วละ
ฉันไม่ยอมมันหรอกนะ!!” ศรีกราดเกรี้ยว

ศรีเปิดสมุดหน้าเหลือง หาเบอร์ทนายความที่อยู่ใกล้เราที่สุดในทันทีและทันใดที่ได้ติดต่อทนายความ
ในการสนทนาชั้นแรก เขาจะบอกก่อนว่าเขาคิดราคาเท่านั้นเท่านี้ต่อชั่วโมง
ครึ่งชั่วโมงนับเป็นหนึ่งชั่วโมงซึ่งเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว
แถมยังแนะนำด้วยว่า ถ้าจะให้ดี พวกเราควรเตรียมเอกสารและข้อความที่จะถามมาให้พร้อม จะได้ไม่เสียเวลามาก

พวกเราตกลงตามข้อเรียกร้องทุกประการและขอนัดพบในบ่ายนั้น ทันที
รับให้คำปรึกษาและช่วยดำเนินการเรื่องการทำวีซ่านักเรียน (อเมริกา)

71

กระทู้

16

ติดตาม

2710

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

โพสต์เมื่อ 2012-10-28 03:09:25 |ดูโพสต์ทั้งหมด
หลังจากที่ทนายความได้ดูสัญญาเช่าอีกทั้งจดหมายที่ได้รับหมาดๆ แล้วไอ้ศรีก็ให้การเป็นต่อยหอย ว่า...
“พวกฉันเพิ่งจะขยายครัวใหม่ ลงทุนไปก็หลาย กิจการก็กำลังดำเนินไปด้วยดี   นี่เจ้าของกะหวังจะฮุบกิจการเราอย่างหน้าด้านๆ นี่นา
ถือว่าเป็นการหักหลังมั๊ยเนี่ยย หยั่งงี้น่ะ!!!”

ทนายความนั่งมองพวกเราด้วยแววตาประหลาดมันดูสมเพชระคนสงสารอย่างไรไม่รู้ ก่อนที่จะกระดกตัวจากเก้าอี้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า...
“ในสัญญานี่นะ...ไม่ได้กล่าวไว้ว่าเจ้าของต้องมารับผิดชอบในการต่อเติมอาคารของพวกยู มิหนำซ้ำการต่อเติมใดๆ ที่เจ้าของไม่ได้อนุญาตนั้น  เขามีสิทธิที่จะฟ้องร้องได้   และเขามีสิทธิเต็มที่ตามที่แจ้งมาในเรื่องการยกเลิกสัญญาเช่าในกำหนดที่ให้ไว้กับพวกยูคือ  60 วันจากวันที่ได้รับจดหมาย”

ไอ้ศรีและพวกเราทั้งหมด หน้าซีดเผือด  ใจหายไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม...แต่ก็ยังอุตส่าห์เถียงด้วยเสียงแหบแห้งว่า...
“เก๊าะ  ยัยมิสซิสปาร์คก็รู้ว่าเราต่อครัวออกไปแกยังมายืนดูเลยแถมชมด้วยว่าไอเดียดี...และยังบอกพวกเรา...ว่าาาา...”

ไม่ทันที่จะสิ้นประโยค ทนายความรีบโบกมือ พร้อมกับบอกว่า...
“คำพูดตกลงใดๆ นั้นมันใช้ไม่ได้ในศาล  ทุกครั้งที่ยูจะทำอะไรที่เกี่ยวกับตึกที่เช่าจะต้องเขียนเป็นจดหมายหรือโน้ตให้เขาเซ็นรับทราบ...จึงจะใช้ได้...ถ้าจะให้ฉันแนะนำนะพวกยูไปหาร้านใหม่ทำ  ย้ายออกไปซะ เพราะในสัญญานี้ยูเสียเปรียบทุกประตู...”

นั่นคือคำตอบสุดท้าย...ที่ทำให้พวกเราและไอ้ศรีแม่หัวเรือใหญ่นิ่งเงียบพากันเดินขรึมออกมาจากสำนักงานทนายความนั้น อย่างอาการที่ผิดกันกับตอนขามา ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง

คืนนั้นทั้งคืน พวกเราไม่เป็นอันทำการทำงาน โทร.คุยและเล่าให้ใครต่อใครฟังไปทั่ว
พอมีสติก็พยายามอ่านทำความเข้าใจในถ้อยกระทงความของสัญญานั้นอย่างละเอียดจริงอย่างที่ทนายความนั่นว่าไว้ทุกประการ...

ไม่มีทางเลย ที่เราหาญลุกขึ้นต่อสู้ได้
เพราะในอเมริกานั้นเชื่อถือในกระดาษที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ไม่สำคัญว่า คำพูดนั้น จะเป็นอย่างไร
ถึงแม้ว่ามีพยานหลายคนก็ไม่ก่อผล แต่ประการใด...ในชั้นโรงชั้นศาล!!!

นี่เป็นบทเรียน บทต่อมา ของพวกเรากระมัง ว่าด้วยเรื่อง จิตมนุษย์ นั้นไซร้ ยากแท้หยั่งถึง!!

แก๊งค์เหลือขอ รับทราบข้อความทั้งหมดในวันต่อมา..
ออกจะเห็นอกเห็นใจสงสารพวกเราโดยเฉพาะ ไอ้ศรี   และไม่รังเกียจรังงอน ที่จะมาช่วยกันยักย้ายขนของที่ออกจะมากมายก่ายกอง..

ทั้งๆที่ฉันและตุ่มต้องการตัดปัญหาด้วยการโละทิ้ง  
แต่ศรี ขอเก็บไว้ทั้งหมด   โดยไปเช่าตู้เก็บของที่คิดเป็นรายเดือน  อารมณ์ของศรีในยามนั้นคงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น มันว่า..มันจะต้องเปิดร้านใหม่..ให้ได้ในเร็ววัน..  
ทั้งฉันและตุ่ม  เห็นพ้องต้องกันว่าศรีมันคงจะเสียดายร้าน จนสติฟั่นเฟือนไปแล้ว...!!!

หลังจากนั้นต่อมา...ฉันก็ออกหางานทำในยามเย็นเพื่อที่จะมาใช้หนี้บัตรเครดิตต่างที่ก่อไว้
ตุ่ม..กลับไปเรียนหนังสือ เพราะจะต้องย้ายรัฐตามแฟนหนุ่ม..
ศรีมาหาฉันในวันหนึ่งด้วยมาดที่มุ่งมั่น...
มาเล่าว่า..มันไปซื้อรถแคนทีน(รถที่สามารถประกอบ
อาหารและขับเคลื่อนไปขายได้ในตามจุดต่างๆ)เก่าๆมาคันหนึ่ง..กะว่า..จะขายฮ๊อทด็อก  
แฮมเบอร์เกอร์  เบอริโตส์(อาหารเม๊กซิกัน)  เครื่องดื่มพร้อมน้ำชากาแฟ
โดยขับไปจอดตามบริเวณที่เป็นเขตที่มีโรงงานใหญ่ๆ  คนงานเป็นร้อยๆ  
มันว่า  มันจะขายข้าวผัด  เฉาหมิ่น  อะไรต่อมิอะไรพ่วงไปด้วย  และถามฉันว่า จะหุ้นด้วยไหม?
คราวนี้ฉันปฏิเสธ อย่างไม่ต้องคิดสักนิดเดียว  เพราะ..บอกตรงๆว่า  
ฉันเข็ดเขี้ยวกับธุรกิจ“”ที่ไม่มีความชำนาญนี่ เต็มประดา !!!

ศรีไม่เซ้าซี้ ฉันแม้แต่นิด มันว่ามันเข้าใจในความรู้สึกฉันเป็นอย่างดี..แต่มันทิ้งท้ายไว้ว่า..
ฉันน่ะ..ไม่มีวันเข้าใจมัน..เพราะ ในชีวิตฉันนั้น..ไม่เคยต้องขวนขวายอะไรเพื่อให้ได้มา

ฉันไม่ได้บอกกับศรีหรอกนะว่า..เหตุผลอื่นน่ะ..มี...คือว่า..
ฉันมองไม่เห็นตัวเอง...ที่จะต้องไปตากหน้าอยู่บนรถทำอาหารอันอุดอู้  ขายอาหารสำเร็จรูปทีละเหรียญสองเหรียญ  ตั้งแต่เช้ายันค่ำ  
และที่สำคัญมากกว่านั้น คือ
ฉันจะไปบอกใครต่อใครเขาได้ว่า..ต้องเร่ขายอาหารให้กับพวกคนงานชาวเม๊กซิกัน...
แค่คิด..ก็ อดสูใจจะแย่อยู่แล้ว...ธุรกิจประเภทนี้ ก็จัดเข้าระดับ หาบเร่ ดีดีนี่เอง
ถ้าศรี มันทำได้ก้อเรื่องของมัน..หากแต่..ฉันนั้น..เห็นจะไม่รับทาน
และคิดเลยเถิดไปอีกว่า...ชาตินี้เห็นจะไม่มีวัน..!!!

จากนั้นมา...ฉันและศรีแทบจะไม่เคยเจอะเจอกัน เพราะฉันย้ายโรงเรียนพร้อมที่อยู่ออกไปทางฝั่ง
เหนือของเมืองซาน ฟรานซิสโก  ใช้ชีวิตโลดแล่นไปอย่างไม่มีแก่นสารอะไร หรือจะเรียกให้ถูกว่า
รับจ้างเรียนหนังสือ ก็ไม่ผิดนัก  

ศรีเองก็ย้ายทำเลที่อยู่อาศัย  ได้ข่าวว่าหมกมุ่นอยู่กับธุรกิจขายอาหารบนรถ ตั้งแต่เช้าตรู่ยันดึกยันดื่น และแทบจะทุกวัน  จนขาดการติดต่อไปโดยปริยาย..
เรื่องขยันและสู้งานนี้ ไม่มีใครเกินหน้า นังศรีคนนี้
ฉันรับรองได้..และรู้แน่แก่ใจว่า..มันกำลังสานฝันให้เป็นจริง..ตามที่มันว่าไว้ทุกประการ..

หลายปีผ่านไป...ทราบว่า..ศรีได้พบรักและแต่งงานกับชายเชื้อชาติเม๊กซิกัน และพากันย้ายออกไปทำมาหากินในรัฐเท๊กซัส  ถิ่นฐานดั้งเดิมของของสามี..
จากนั้น...ฉันก็ไม่ได้ข่าวคราว เพื่อนศรี อีกเลย....
จนกระทั่ง..ไม่กี่ปีมานี้..ฉันมีธุระจะต้องไปที่เท๊กซัส..ก่อนไป ได้เจอกับพี่สาวศรีโดยบังเอิญ..
เธอจึงรีบติดต่อศรี ให้ฉันทันที..

ศรี..โทรมาหาฉันด้วยน้ำเสียงระคนตื่นเต้นดีใจ ที่เราจะได้พบกับ  ออกคำสั่งให้ฉันห้ามไปพักที่ไหน
นอกจากที่บ้านของมันเท่านั้น..อยากให้ลูกๆสองคนและสามีได้รู้จักกับเกลอเก่าอย่างฉัน
ฉันเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน...นับเป็นสิบๆปีแล้วซินะ..ที่เราขาดการติดต่อขาดหายเสียจนไม่คิดว่าจะได้
พบปะเจอะเจอกันอีกในชาตินี้..

71

กระทู้

16

ติดตาม

2710

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

โพสต์เมื่อ 2012-10-28 03:10:41 |ดูโพสต์ทั้งหมด
ทันที่ที่ลงจากเครื่องบิน  เท้าแตะสนามบิน ผิวหน้าของฉันก็ได้สัมผัสกับอากาศทะเลทรายแห้งระอุ
มันช่างต่างกันลิบลับกับนครซานฟรานซิสโกที่เพิ่งจากมา..ทันทีที่ก้าวเดินล่วงพ้นประตูทางเข้า

เสียงเรียกชื่อฉันลอยขึ้นมา...หันไป..ศรีนั่นเอง...อ้วนท้วนมีน้ำมีนวล  แต่ท่าทางกระฉับกระเฉงเหมือนเดิม  เ
รากอดกันกลม..แย่งกันพูด  แย่งกันทักทาย  ไม่มีใครฟังใครเหมือนเดิม
ศรีเดินนำฉันไปที่จอดรถ..
ที่นั่น ฉันเห็น รถยี่ห้อจากัวร์รุ่นใหม่เอี่ยมสีแชมเปญ จอดรออยู่
ศรีรีบกุลีกุจอเอากระเป๋าเดินทางฉันใส่หลังรถ..เปิดประตูให้ฉันเข้าไปนั่งสตาร์ทเครื่องแล่นฉิว ลอยไปยังกับปุยนุ่น.. ยังบ้านที่จะเป็นที่พำนักของฉันในช่วงวันสองวันนี้..

และที่นั่น..ฉันก็ต้องพบกับความประหลาดใจอีกเป็นซ้ำสอง..เพราะบ้านที่มันว่านั้น
มันใหญ่โตมโหฬาร ราวกับปราสาทราชวัง  ตั้งเด่นเป็นสง่าในเนื้อที่หลายสิบเอเคอร์
จากทางลาดเข้าไปยังถึงตัวตึกเป็นระยะหลายร้อยเมตร  เป็นทางที่ปูด้วยอิฐแดงอย่างดี
ประดับสองข้างทางด้วยต้นปาล์ทะเลทราย  เป็นระยะระยะ..ตัวตึกที่อยู่อาศัย ปลูกสร้างในสไตล์สแปนิช...หลังคาเป็นกระเบื้องลอนดินเผาอย่างดีเรียงสลับซับซ้อน
พื้นเป็นหินอ่อนสีใส  กลางบ้าน..จัดเป็นสวนปาล์มมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เป็นรูปรี

ภายในบ้าน เปิดแอร์ตลอดทุกที่..เย็นฉ่ำ..และในทุกมุมถูกจัดวางด้วยเฟอร์นิเจอร์มีราคา
อีกทั้งความร่มรื่นทั้งในและนอกบ้านด้วยต้นไม้นานาพันธ์

นับว่า...เป็นบ้านหลังหนึ่งที่โอ่อ่า และสวยที่สุดเท่าที่ฉันได้เคยเห็นมา..โดยมีเจ้าของเป็นคนไทย
ทันทีที่นั่งลงคุยกันได้..ฉันไม่รอให้ความสงสัยครอบคลุมอยู่นาน...จึงถามถึงที่มาที่ไปทันที

ศรีเล่าว่า..มันใช้รถแคนทีนคันนั้น..ขายอาหารตามโรงงานที่นั่นที่นี่..ตั้งแต่เช้าตรู่ยันมืดค่ำทุกวัน..
และทันทีที่มันเก็บเงินได้มากพอ ก็ซื้อรถเพิ่มมาใหม่อีกคันนึง..จ้างคนเอาอาหารไปขายที่จุดอื่นๆ  ทำอย่างนั้นหลายครั้งเข้า..ศรีมีรถแคนทีนในครอบครองถึงแปดคันภายในระยะสามปี..
ตอนนั้น..ศรีให้คนทำการเช่ารถไปประกอบกิจการโดยตัวเองทำหน้าที่ดูแลเก็บเงินค่าเช่าอย่างเดียว..
"อ้าว..แกเลิกขายทำไมล่ะ  ดูท่าจะขายดิบขายดีนี่..  ฉันถามเพราะอดสงสัยไม่ได้"
ศรีบอกว่า...ไม่ได้ให้เช่ารถอย่างเดียว...อาหารที่นำออกไปขายเป็นของศรีทั้งหมด..
จัดใส่รถให้เต็ม..จ้างคนให้ขับเอาไปขายอย่างเดียว  ตัวมันคอยขับรถอีกคันหนึ่งคอยส่งของให้เพิ่มเติมในกรณีขาดเหลือ  และคอยแวะเวียนตรวจตราดูตามจุดที่ขาย..จุดนั้นจุดนี้
ปัญหาการขายนั้นไม่มี..แต่ปัญหาเรื่องการดูแลรถนั้น..
เป็นสิ่งที่ศรีเอง ไม่มีปัญญาที่จะทำเองได้
เพราะเวลารถเสียทีนึง นั่นหมายความว่ารายได้ต่อวันขาดหายไปไม่ใช่น้อย..
จากการวิ่งเข้าวิ่งออกอู่โน้นอู่นี้ นั้น  พรหมลิขิตพาให้ ศรีได้พบกับสามี ฮวน ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ จนผูกจิตสมัครรักใคร่และแต่งงานกันในต่อมา
ทั้งสองช่วยกันทำมาหากินกับกิจการรถแคนทีน
(ที่ฉันเคยดูถูกว่า ขายทีละเหรียญสองเหรียญ)
จนเจริญเติบโตมีรถเป็นของตัวเองนับเป็นร้อยๆคัน..
ในบัดนี้  กิจการได้ขยายสาขาไปทั่วในหลายๆรัฐ

ปัจจุบัน..ทั้งคู่มีกิจการเป็นของตัวเองมากมายโดยที่เริ่มต้นจากจุดเล็กๆจุดนี้นี่แหละ  
ศรีบอกมาเหมือนกันว่า...มีกิจการที่ไหนและอะไรบ้าง  
ฉันเองยังจำแทบไม่หวาดไม่ไหว..
แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า...
"ถามจริงจริ๊งเหอะ....แกว่า แกร่ำรวยมาจากการขาย  ฮ๊อตด็อก เบอริโตส์อันละเหรียญสองเหรียญเนี่ยนะ ???"
ศรีตอบว่า..
"ใหม่ๆฉันก็เหนื่อยมากนะ  เพราะต้องขับรถเอง  ขายเอง  สต๊อคของเอง แต่แกไม่รู้อะไร...มันขายดีเสียจนกระทั่ง..ไม่มีเวลานับเงินแน่ะ..รับเงินมาทีละเหรียญสองเหรียญอย่างที่แกว่านี่แหละ..เก็บใส่ลิ้นชักไม่ทัน..ต้องโยนใส่ถุงขยะพลาสติกแล้วเอาหนังสะติ๊กมัดปากถุง อุ้มไปเข้าแบ๊งค์ทั้งอย่างนั้นเลย..ในวันเดียวนี่แหละ..ถุงแล้วถุงเล่า เลยเชียว  !!!!

มิหนำซ้ำ  ศรียังคุยเรื่อยเจื้อยต่อไป..เพราะ ความเพลินในอารมณ์..ว่า...
ถ้าวันนั้นนะแกแค่เอาเงินมาหุ้นกับฉันแค่พันเดียว..ป่านนี้เราได้คุมกิจการนี้ไปทั่วทุกรัฐในอเมริกาแล้ว..!!!

ฉันได้แต่นั่งอึ้ง...มองย้อนดูตัวเอง..และเห็นอย่างเด่นชัดถึง คำว่า ศักดิ์ศรี  ที่เคยยึดติดมาตลอด
จนวางรากฐานชีวิตไว้กับคำคำนี้นั้น..มันช่างเป็นอะไรที่ลมๆแล้งๆและเหลวไหลสิ้นดี..
ใครนะที่ว่า....อย่าหมิ่นเงินน้อย  อย่าคอยวาสนา...
คนที่จะซึ้งต่อประโยคนี้ คงไม่มีใครเกินไปกว่าฉันแน่นอน..แม้กระทั่งจนบัดเดี๋ยวนี้ !!!

71

กระทู้

16

ติดตาม

2710

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

โพสต์เมื่อ 2012-10-28 03:11:14 |ดูโพสต์ทั้งหมด
จบแล้วนะครับ ใครอ่านจบมั่งนี่ 5555+

109

กระทู้

25

ติดตาม

3109

เครดิต

ผู้ดูแลพิเศษ

Rank: 8Rank: 8

โพสต์เมื่อ 2012-11-3 11:26:44 |ดูโพสต์ทั้งหมด
อ่าน จบ><

71

กระทู้

16

ติดตาม

2710

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

โพสต์เมื่อ 2012-11-30 07:05:20 |ดูโพสต์ทั้งหมด
LinZ ตอบกลับเมื่อ 2012-11-3 11:26
อ่าน จบ>

มีแต่แอดมินอ่านกันเอง -*-

ทีหลังไม่เอามาลงแล้ว งอล

0

กระทู้

0

ติดตาม

30

เครดิต

Newbie

Rank: 1

โพสต์เมื่อ 2012-12-22 01:30:04 |ดูโพสต์ทั้งหมด
อ่านจบค่ะ และชอบมาก มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย
ขอบคุณค่ะ

71

กระทู้

16

ติดตาม

2710

เครดิต

ผู้ดูแลระบบ

Rank: 9Rank: 9Rank: 9

โพสต์เมื่อ 2012-12-22 02:50:24 |ดูโพสต์ทั้งหมด
mew ตอบกลับเมื่อ 2012-12-22 01:30
อ่านจบค่ะ และชอบมาก มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย
ขอบคุณค่ะ ...

มีคนอ่านจบด้วย T^T

0

กระทู้

0

ติดตาม

43

เครดิต

Newbie

Rank: 1

โพสต์เมื่อ 2012-12-24 12:31:04 |ดูโพสต์ทั้งหมด
เยอะมาก แต่สนุกดี

0

กระทู้

0

ติดตาม

8

เครดิต

Newbie

Rank: 1

โพสต์เมื่อ 2013-1-18 16:40:37 |ดูโพสต์ทั้งหมด
อ่านจบ! เย้ๆๆ สนุกดี ได้รู้อะไรหลายๆ อย่าง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

Archiver|WAP|KhonThai America

GMT+7, 2024-3-29 22:40 , Processed in 0.032253 second(s), 19 queries .

Powered by Discuz! X2.5  Language by l3eil3oy

© 2001-2012 Comsenz Inc. style by eisdl

ขึ้นไปด้านบน