KhonThai America : คนไทยในอเมริกา

ชื่อกระทู้: การซื้่อรถที่อเมริกา [สั่งพิมพ์]

โดย: Livekernelevent เวลา: 2012-10-21 22:27
ชื่อกระทู้: การซื้่อรถที่อเมริกา
ซื้อรถที่อเมริกา ซื้อไม่ยากครับ แต่ซื้อแล้วเอาออกมาขับยาก ตอนผมกลับมาอเมริกาใหม่ๆยังแอบมึนอยู่นานเลยครับ กฎหมายเปลี่ยนไปเยอะ การซื้อรถที่อเมริกา เราซื้อได้จาก Dealership (เต็นขายรถ) หรือซื้อโดยตรงจากเจ้าของก็ได้ครับ วันนี้ผมจะมาแนะนำทั้ง 2 แบบ

1. ซื้อจาก Dealership ถ้ามาอเมริกาใหม่ๆ ไม่รู้จักใคร และไม่อยากวุ่นวายมาก ผมแนะนำให้ซื้อจากเต๊นรถเลยครับ ราคาอาจจะแพงกว่าซื้อรถบ้านนิดหน่อย แต่ตัดปัญหาไปได้หลายๆอย่าง เพราะดีลเลอร์จะจัดการให้หมดเรื่องทะเบียนรถ ประกันก็จะหาให้ และป้ายทะเบียนสำรองของดีลเลอร์ขับได้ 30 วัน ก่อนได้ป้ายทะเบียนจริง

[attach]46[/attach]

มีใบขับขี่ไทย ใช้ใบขับขี่ไทยได้เลย ไม่จำเป็นต้องไปทำอินเตอร์นะครับ บางรัฐไม่รับรองใบขับขี่อินเตอร์เพราะมันเป็นแค่เอกสารแปลใบขับขี่ ใบขับขี่ไทยมีคำแปลเป็นอังกฤษอยู่แล้ว ใช้ได้เลยครับ บางรัฐได้ 30 วัน แคลิฟอเนียเหมือนจะใช้ได้จนกว่าใบขับขี่จะหมดอายุ ข้อเสียอย่างแรงในการใช้ใบขับขี่ไทยคือ ประกันแพงมาก เค้าคิดเรทเดียวกับพวกหัดขับรถใหม่เลย (แพงกว่าเรทปกติราวๆ 5 เท่า) ทางที่ดีไม่อยากจ่ายแพง ทำใบขับขี่อเมริกาครับ

เอกสารที่ต้องใช้ถ้าไม่มีใบขับขี่อเมริกาคือ พาสปอร์ต, เอกสารยืนยันที่อยู่ (จดหมายที่ส่งถึงเรา 2 ฉบับ) และก็ใบขับขี่ไทย บางรัฐไม่สามารถโอนรถได้จนกว่าเราจะมีใบขับขี่อเมริกานะครับ แต่ละรัฐกฎหมายต่างกัน ถ้ามาอยู่รัฐที่ต้องใช้ใบขับขี่ในการโอนรถ ซื้อรถมาแล้วรีบวิ่งไปทำใบขับขี่เลยครับ เต็นท์เค้าจะโอนให้ไม่ได้

เรื่องประกัน คนไทยส่วนใหญ่ซื้อสดอยู่แล้ว (ถ้าจะผ่อนก็ได้นะ แต่ไว้ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลัง) ก็ทำประกัน Liability ก็ได้ครับ (ประกันบุคลที่ 3) ถูกดี จะทำชั้น 1 ก็ได้นะครับ ถ้าอยากสบายใจ อันนี้ตกลงที่เต็นท์เลยจะเอาประกันแบบไหน ผมเชื่อว่าแทบทุกรัฐมีตัวแทนขายประกันรถยนต์เป็นคนไทยนะครับ ลองสอบถามดีๆก่อน ตัวแทนคนไทยมักจะให้เรทได้ต่ำกว่าพวกฝรั่งพอสมควรเลยครับ

2. ซื้อโดยตรงจากเจ้าของรถ กรณีนี้ได้รถถูกกว่าแน่ๆ แต่เรื่องยาวนะครับกว่าจะขับรถได้ ถ้าจะซื้อรถโดยตรงจากเจ้าของ ผมแนะนำให้ทำใบขับขี่อเมริกาไว้ก่อน พอได้รถที่ถูกใจ ตกลงราคากับเจ้าของได้แล้ว นัดวันไปเอารถซัก 3-4 วันหลังจากที่ตกลงกันได้แล้วนะครับ เพราะคุณต้องไปติดต่อประกันก่อน โดยเอาหมายเลข VIN ของรถ (ถามเจ้าของก็ได้ครับ) ให้กับตัวแทนประกัน เค้าจะใช้หมายเลขนี้หารุ่นและปีของรถได้ทันที และก็ไมล์ของรถว่ามีเท่าไหร่ แล้วทางประกันจะคำนวนเบี้ยประกันมาให้ ห้ามขับรถที่อเมริกาโดยไม่มีประกันโดยเด็ดขาด ถ้าโดนตำรวจเรียก เค้าใส่กุญแจมือแล้วเอาไปขังเลยนะครับ มันความผิดร้ายแรงมาก ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่อาของผมโดนมาแล้ว ไปนอนในคุก 1 คืน

[attach]47[/attach]

ควรนัดส่งมอบรถที่ Tag Office เพื่อคุณจะได้โอนรถและขอทะเบียนรถใหม่ได้ในวันนั้นเลย เพราะถ้าส่งมอบรถที่อื่น เจ้าของรถจะถอดป้ายทะเบียนเดิมออก รถคุณก็จะไม่มีป้ายทะเบียนแล้วทีนี้ หลายๆคนบอกให้เอากระดาษแปะไว้หลังรถแล้วเขียนว่า "Tag Applied For" อย่าไปทำเชียวนะครับ จริงๆแล้วกฎหมายให้เวลาในการโอนรถ 30 วัน แต่คุณต้องมีเอกสารซื้อขายติดรถไว้ และก็มีประกัน ถ้่าไปแปะไอ้นี่ไว้ ยิ่งทำให้ตำรวจอยากเรียกว่าคุณมีเอกสารซื้อขายไหม ดังนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดคือ ส่งมอบรถที่ Tag Office ครับ คุณจะได้ป้ายทะเบียนรถใหม่วันนั้นเลย

เอกสารที่ต้องใช้ในการโอนรถคือ Title (ประมาณเล่มทะเบียนรถ เจ้าของจะเซ็นโอนให้ด้านหลัง), เอกสารยืนยันที่อยู่ 2 ฉบับ, ใบขับขี่อเมริกา, ประกัน, emission test ตอนซื้อรถถามเจ้าของด้วยนะครับว่า รถตรวจสภาพผ่านหรือยัง (emission control) ถ้ายังไม่ผ่าน โอนไม่ได้นะครับ ข้อมูลมันจะขึ้นออนไลน์

กฎหมายอเมริกาเค้าเข้มงวดมากนะครับเรื่องรถ ไม่ค่อยอนุโลมอะไรด้วย ทางที่ดีทำทุกอย่างให้ถูกกฎหมายนะครับ ถ้าไม่อยากมีปัญหากับเจ้าหน้าที่

โดย: nung เวลา: 2012-10-23 19:00
ขอบคุณค่ะ เคยได้ยินคนบอกว่ายิ่งรถเก่าภาษียิ่งแพงจริงมั้ยคะ

โดย: Livekernelevent เวลา: 2012-10-28 09:57

nung ตอบกลับเมื่อ 2012-10-23 19:00
ขอบคุณค่ะ เคยได้ยินคนบอกว่ายิ่งรถเก่าภาษียิ่งแพงจร ...

ที่ญี่ปุ่นกับสิงคโปรอะครับ ยิ่งเก่ายิ่งแพง ที่อเมริกา ยิ่งเก่ายิ่งถูก 555

โดย: Memiieonly เวลา: 2013-6-5 10:30
ถ้าราคารถที่เมืองไทยถูกเหมือนอเมริกาก็คงจะดีนะคะ :3

โดย: vanplazaa09 เวลา: 2013-11-28 10:18

ขอบคุงสำหรับข้อมูลนะค่ะ คิคิ

Motor Expo 2013 มอเตอร์เอ็กซ์โป 2013

ยินดีต้อนรับสู่ KhonThai America : คนไทยในอเมริกา (http://www.khonthaiamerica.com/)