ice999 โพสต์เมื่อ 2016-1-7 21:06:14

รู้ไว้ก่อนสมัคร..รวมมหาวิทยาลัยที่มีค่าสมัครแพงที่สุดในอเมริกา

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2016-1-6 22:27





      บทความจาก http://www.dek-d.com/studyabroad/39291/
     การสมัครเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นทางสถานศึกษาจะเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครหรือไม่ก็ได้ บางแห่งก็เก็บบางแห่งก็ไม่เก็บ บางแห่งเก็บไม่เท่ากันในแต่ละหลักสูตรที่สมัครและบางแห่งก็เก็บค่าธรรมเนียมการสมัครไม่เท่ากันระหว่างเด็กอเมริกันและเด็กต่างชาติดังนั้นต้องตรวจสอบกับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยที่สนใจเองนะคะว่าเก็บค่าธรรมเนียมการสมัครเท่าไหร่
     จากผลสำรวจของสื่ออเมริกันชื่อดังอย่าง U.S. News พบว่าค่าเฉลี่ยของค่าธรรมเนียมการสมัครเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยในปี 2015อยู่ที่ $41 หรือประมาณ 1,670 บาท ส่วนค่าธรรมเนียมที่เจอได้มากที่สุดคือ $50 หรือประมาณ1,790 บาทค่ะ แต่รายชื่อมหาวิทยาลัยต่อไปนี้ที่จะนำมาให้ดูคือมหาวิทยาลัยที่เก็บค่าธรรมเนียมการสมัครสูงที่สุดในอเมริกามาดูกันว่ามหาวิทยาลัยในฝันของน้องๆ เก็บที่กี่บาท

$75    มหาวิทยาลัยที่เก็บค่าธรรมเนียม $75 หรือประมาณ2,687 บาท ถือว่าเป็นระดับราคาที่แพงเป็นอันดับ4 ในตารางค่ะ จำนวนมหาวิทยาลัยที่เก็บในอัตรานี้มีมากกว่า 30มหาวิทยาลัยชั้นนำในอเมริกาเลย แต่พี่จะเลือกมาให้ดูแค่ 10 ที่ที่ดังมากๆ ละกันค่ะ  
  Brown University    California Institute of Technology  (CalTech)  
  Carnegie Mellon University    Cornell University  
  Harvard University    Massachusetts Institute of  Technology (MIT)  
  Northwestern University    University of Chicago  
  University of Pennsylvania    Washington University in St. Louis  


    มหาวิทยาลัยในไอวีลีกคิดราคานี้เยอะอยู่เหมือนกันทั้งบราวน์คอร์เนลล์ ฮาร์วาร์ด และเพนน์ซิลเวเนีย นอกจากนี้ 2 สถาบันด้านเทคโนโลยีชื่อดังของประเทศอย่างMIT และ CalTech ก็คิดราคานี้เช่นกัน $75จึงเป็นราคายอดฮิตของมหาวิทยาลัยชื่อดัง
$80    แพงขึ้นมาอีก 5 ดอลลาร์กับราคา 2,865บาท มีมหาวิทยาลัยที่คิดค่าธรรมเนียมเท่านี้เพียง6 แห่งค่ะ ได้แก่  
  Boston University    Dartmouth College  
  University of North  Carolina—Chapel Hill    University of Southern California  
  Villanova University    Yale University  


    ราคานี้มี 2 มหาวิทยาลัยในกลุ่มไอวีลีกค่ะนั่นคือวิทยาลัยดาร์ธมัธและเยลส่วนมหาวิทยาลัยที่น่าจะไม่คุ้นชื่อที่สุดในกลุ่มนี้ก็คงเป็น VillanovaUniversity แม้จะเป็นมหาวิทยาลัยระดับท้องถิ่นในรัฐเพนน์ซิลเวเนียแต่วิลลาโนวาก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยท้องถิ่นที่ดีที่สุดในภาคเหนือดังนั้นก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ
$85    สำหรับราคาค่าสมัครเข้าเรียนต่อ $85 หรือประมาณ3,050 บาท มีมหาวิทยาลัยชื่อดังเพียง2 แห่งที่คิดเท่านี้ค่ะ นั่นคือ ColumbiaUniversity ที่เป็นอีกหนึ่งสมาชิกของกลุ่มไอวีลีกและ DukeUniversity มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงด้านวิชาการและกีฬาแห่งหนึ่งของประเทศ
$90    และมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกาที่เก็บค่าธรรมเนียมการสมัครแพงที่สุดก็คือStanford University ในรัฐแคลิฟอร์เนียค่ะค่าธรรมเนียมของปริญญาตรีว่าแพงแล้วเพราะอยู่ที่ 3,230 บาท แต่ของปริญญาโทแพงกว่าเยอะค่ะ เพราะบางหลักสูตรแพงถึง $275 หรือประมาณ 9,870 บาท เห็นแล้วก็ขอปาดเหงื่อเลย
http://www.mx7.com/i/a77/9I7s6p.jpg

การขอยกเว้นค่าธรรมเนียมการสมัคร
     เห็นค่าสมัครก็อยากจะถอดใจแล้วอยากจะสมัครหลายที่ แต่สมัครทีนึงก็เสียครั้งละสามพันแน่ะฉะนั้นบางมหาวิทยาลัยก็มีทางออกในเรื่องนี้ให้ค่ะนั่นคือการยกเว้นค่าสมัครเข้าเรียนให้กับนักศึกษาที่ทางครอบครัวจะต้องเดือดร้อนแน่ๆถ้าเสียค่าสมัครเท่านี้ แต่สิ่งที่น้องต้องรู้ก่อนก็คือ
     1. ไม่ใช่ทุกมหาวิทยาลัยที่มีการยกเว้นค่าสมัคร
     2. บางมหาวิทยาลัยไม่ยกเว้นค่าสมัคร แต่ให้ส่วนลดค่าสมัครแทน
     3. บางมหาวิทยาลัยยกเว้นค่าสมัครให้แค่เด็กในประเทศเท่านั้นต่างชาติอด
     4. บางมหาวิทยาลัยที่ยกเว้นค่าสมัครให้เด็กต่างชาติต้องการเอกสารหลักฐานและหนังสือรับรองมากมายจนค่าดำเนินการเรื่องทั้งหมดนี้แพงพอๆกับค่าสมัครเรียน
     5. เกณฑ์การยกเว้นค่าธรรมเนียมการสมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยแตกต่างกันวิธีการขอยกเว้นก็แตกต่างกัน ให้ตรวจสอบจากหัวข้อ Fee Waivers ของเว็บไซต์แต่ละมหาวิทยาลัยเองค่ะ
     แต่มหาวิทยาลัยที่พี่พิซซ่าคิดว่าใจดีในเรื่องนี้ก็คือHarvard และYale ค่ะของฮาร์วาร์ดน้องๆ สามารถเขียนเรียงความอธิบายมาเองได้เลยว่าทำไมจึงควรได้รับการยกเว้นนี้หรือจะขอแบบฟอร์มจากฝ่ายรับสมัครนักศึกษามาให้อาจารย์ที่โรงเรียนกรอกข้อมูลและยืนยันว่าน้องต้องได้รับการยกเว้นนี้จริงๆก็ได้ ส่วนของเยลก็คล้ายๆ กันคือให้ขอแบบฟอร์มจากทางมหาวิทยาลัยเอาไปให้อาจารย์หรือนายอำเภอรับรองให้โดยที่ไม่ต้องส่งหลักฐานทางการเงินของผู้ปกครองหรือหลักฐานด้านการเงินอื่นๆประกอบค่ะ ตัวอย่างเกณฑ์การเป็นผู้ได้รับการยกเว้นค่าสมัครของเยลคือ
     ครอบครัวขนาด 1-2 คนต้องมีรายได้รวมต่อปีไม่เกิน $65,000 (2,332,000 บาท)
     ครอบครัวขนาด 3 คนต้องมีรายได้รวมต่อปีไม่เกิน $70,000 (2,511,000 บาท)
     ครอบครัวขนาด 4 คนต้องมีรายได้รวมต่อปีไม่เกิน $75,000 (2,690,000 บาท)
     ครอบครัวขนาด 5 คนต้องมีรายได้รวมต่อปีไม่เกิน $80,000 (2,870,000 บาท)
     ครอบครัวขนาด 6 คนขึ้นไปต้องมีรายได้รวมต่อปีไม่เกิน $85,000 (3,049,000 บาท)
     แม้ว่าเกณฑ์นี้จะคำนวณจากค่าครองชีพในอเมริกาแต่เยลยืนยันว่านักศึกษาจากประเทศอื่นก็ให้ใช้เกณฑ์เดียวกันนี้ได้เลยค่ะ
     ถ้าใครมองว่าของฮาร์วาร์ดกับเยลก็ถือว่ายากอยู่ดีเพราะต้องเอาเอกสารไปให้คนอื่นรับรองให้แต่ของบางที่ต้องใช้ทั้งหนังสือรับรองจากทางราชการรวมทั้งหนังสือรับรองเงินเดือนผู้ปกครองและหลักฐานการเสียภาษีเสร็จแล้วต้องเอาแต่ละอย่างไปแปลอีก ยุ่งยากแถมต้องใช้เงินพอๆ กับค่าสมัครเลย
     **ใครตาดีจะสังเกตเห็นว่าชื่อมหาวิทยาลัยไอวีลีกหายไป1 แห่งจากลิสต์ค่าสมัครสุดแพงนี้นั่นคือ PrincetonUniversity ค่ะพรินซ์ตันคิดค่าธรรมเนียมการสมัครเข้าเรียนต่อระดับปริญญาตรีเพียง $65 หรือประมาณ 2,330 บาท ทำให้ไม่มีรายชื่อติดโผมาด้วย

     หากน้องๆสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าสมัครหรือการยกเว้นค่าสมัครสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ของแต่ละมหาวิทยาลัยที่เราสนใจเลยค่ะหรือจะส่งอีเมลสอบถามไปทางฝ่ายรับสมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยก็ได้เจ้าหน้าที่เต็มใจตอบข้อสงสัยให้เราอยู่แล้ว
*ข้อมูล ณวันที่ 1 ธันวาคม 2558



ขอบคุณที่มา http://www.dek-d.com/studyabroad/39291/
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: รู้ไว้ก่อนสมัคร..รวมมหาวิทยาลัยที่มีค่าสมัครแพงที่สุดในอเมริกา