ice999 โพสต์เมื่อ 2015-7-23 12:50:16

วิธีการเขียน Mind Map อย่างง่าย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2015-7-22 20:37


     MindMap คืออะไร?


   จาก http://www.mindmapinspiration.com  MindMap (แผนที่ความคิด)คือ เครื่องมือด้านความคิดที่ออกแบบโดยเลียนแบบการทำงานของสมองคิดค้นโดยชาวอังกฤษชื่อ Tony Buzan ซึ่งเค้าว่าเครื่องมือนี้คือ “ภาษาของสมอง” เป็นวิธีเดียวกับที่สมองคิด ใช้ได้ทั้งการนำข้อมูลเข้า (จดบันทึก) และออกจากสมอง (ระดมสมองแสดงความคิด)มีลักษณะสำคัญคือ มีการเชื่อมโยงจากไอเดียหลักตรงกลาง แตกกิ่งออกไปเรื่อยๆประกอบไปด้วย “คำสำคัญ” และ “รูปภาพ”โดยองค์ประกอบเหล่านี้มีการเชื่อมโยงถึงกันด้วย “เส้น” และมีการกระตุ้นด้วยการใช้ “สี“สมองเราทำงานยังไง??จำเป็นภาพ เห็นเป็นสี มีการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆสามารถคิดและจินตนาการได้  
http://i429.photobucket.com/albums/qq16/Chayanit_Homkajorn/left-brain-right-brain-creativity-400x294_zpshx0k9p5z.jpg

สมองเราสองซีกทำงานไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ซีกไหนดีกว่ากัน แต่เราควรใช้ทั้งสองซีก รายละเอียดตามตารางข้างล่าง


  สมองซีกซ้าย  สมองซีกขวา
ใช้ตรรกกะใช้ความรู้สึก
เน้นรายละเอียดเน้นภาพรวม
ข้อเท็จจริงจินตนาการ
คำและภาษาสัญลักษณ์และรูป
ปัจจุบันและอดีตปัจจุบันและอนาคต
คณิต และ วิทยาศาสตร์ปรัชญา และ ศาสนา
สามารถเข้าใจได้ลึกซึ้งสามารถเข้าใจแบบ เก็ตละ!
รู้เชื่อ
รับทราบซาบซึ้ง
รับรู้ลำดับ/แบบแผนรับรู้โดยตำแหน่งเชิงพื้นที่
รู้ชื่อวัตถุรู้หน้าที่ของวัตถุ
ยึดหลักความเป็นจริงยึดหลักจินตนาการเพ้อฝัน
คิดกลยุทธ์บอกถึงความเป็นไปได้
คิดถึงการปฏิบัติได้จริงทำเลย หุนหัน ใจเร็ว
เน้นมั่นคง ปลอดภัยชอบความเสี่ยง




Mind Map มีประโยชน์ยังไง?ช่วยให้เราสามารถ…§  เห็- เห็นภาพรวมของสิ่งต่างๆ- จำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น (เพราะสมองทำการเขื่อมโยงสิ่งที่เราต้องการจำเมื่อมีการเชื่อมโยงจะทำให้จำได้แม่นขึ้น)- สามารถค้นพบไอเดียใหม่ๆ- หาข้อบกพร่อง/จุดอ่อน- วางแผนการทำงาน- จำคำศัพท์ภาษาต่างๆ - คิดได้อย่างเป็นระบบ คิดครบ- จด/สรุป สิ่งที่ต้องการเรียนรู้ได้ในรูปแบบที่รวดเร็ว /ทบทวนได้ง่าย- การช่วยเรื่องของ StakeholderMapping / Networking / Connection

Mind Map มีความพิเศษกว่าเครื่องมืออื่นยังไง?MindMap เลียนแบบการทำงานของสมอง โดย มีการใช้ภาพ สีและมีการเชื่อมโยงเหมือนกัน และกระตุ้นให้ใช้สมองทั้ง 2 ซีกMindMap สามารถนำไปประยุกต์ใช้และ Fusion รวมกับเครื่องมืออื่นๆได้อย่างแยบยล เรียกได้ว่ายิ่งรู้มากยิ่งนำไปประยุกต์ได้มากขึ้นอีกMind Map ทำยังไง (ให้ถูกต้องตามหลักการจากต้นตำรับ)?
http://i429.photobucket.com/albums/qq16/Chayanit_Homkajorn/how-to-mind-map-by-paul-foreman-1000px_zps8yavjvwm.jpg

รูปจาก http://www.mindmapinspiration.comหลายๆคนคิดว่าการทำMind Map ไม่เห็นจะต้องศึกษาอะไรเลย ใครๆก็น่าจะทำได้ แต่ที่จริงแล้วมันมีเทคนิคการทำที่ถูกต้องตามหลักการอยู่ครับซึ่งถ้าทำถูกต้องจะช่วยให้เราคิดได้ดียิ่งขึ้น1.  เตรียมกระดาษเปล่าใหญ่ๆ หน่อยก็ดี (A3-A4กำลังสวย) ให้เอาแบบไม่มีเส้น และให้วางในแนวนอน เพราะเส้นจะทำให้เกิดการตีกรอบ/กั้นความคิดและการอ่านแนวนอนนั้นง่ายกว่าแนวตั้ง (และถ้าคิดจะเก็บเป็น Collection ก็หาแฟ้มเจาะห่วงไว้ด้วยเลยก็ได้)
2.  เตรียมปากกาสีสวยๆไว้ซัก 1 Set คุณสามารถวาด Mind Map ได้ด้วยดีสอสีแท่งเดียวก็จริง แต่ถ้ามีหลายสี มันจะทำให้ Mind Map คุณสวยขึ้น และสียังจะช่วยกระตุ้นความคิดได้มากกว่าด้วย
3. ผ่อนคลายซักนิด ก่อนเริ่มวาด…4. วาดภาพหรือเขียนหัวข้อหลักที่ต้องการจะคิด(Central Idea) ตรงกลางหน้ากระดาษ
1.   ขนาดไม่เล็กเกินไป(จนไม่น่าสนใจ) และไม่ใหญ่จนไม่มีที่ให้แตกกิ่งออกมาเพิ่ม   2.   พยายามอย่าล้อมกรอบซึ่งจะไปปิดกั้นความคิด (สมองจะมองกรอบว่าเป็นการสรุป เสร็จสิ้นแล้ว)
3.   ถ้าวาดรูปไม่เป็นให้ไปหารูปมาแปะ      ถ้าหารูปไม่ได้อีกก็เขียนเป็นคำก็ได้ แต่ต้องเอาให้เด่น!!4.   ทำให้สิ่งที่อยู่ตรงกลางโดดเด่นเพื่อสร้างความจดจำ และกระตุ้นความคิด
-   ใส่สีสดใส -    ใส่อารมณ์เช่น มุกตลก
5. วาดกิ่งใหญ่แตกแขนงออกมาจากภาพตรงกลาง ซึ่งกิ่งใหญ่นี้จะเป็นตัวแทนของหัวข้อหลักที่เกี่ยวกับ CentralIdea ตรงกลาง โดยที่…   แรกเริ่มยังไม่ต้องคิดมากกว่าจะแตกกิ่งอะไรดีจะถูกหรือไม่ ให้ใช้หลักการ Brainstormingคือ ให้พยายามคิดออกมาเยอะๆ คือเน้นปริมาณก่อนจากนั้นค่อยมาคัดทีหลัง
1.   การคัดเลือกให้รวบรวมกิ่งที่คล้ายคลึงกันเข้าด้วยกัน โดยให้มีอย่างมากไม่เกิน 9 กิ่งใหญ่ (หลักการจำของสมอง จำได้แบบ Short-Termได้แค่ 7+2 สิ่ง)2.   เทคนิคของการแตกหัวข้อกิ่งใหญ่คือConcept ที่เรียกว่า NoGap, No Overlap ซึ่งหมายถึงแต่ละหัวข้อควรเป็นประเด็นที่ไม่ซ้ำกัน และเมื่อทุกหัวข้อรวมกันจะทำให้เราเห็นทุกประเด็นของ Central Idea จนครบ3.   การที่จะมองว่าหัวข้อที่เราเขียนมันซ้ำประเด็นกันหรือไม่ให้ลองคิดแบบย้อนกลับ คือ ZoomOut ออกไปว่าสิ่งที่เราเขียนอยู่ใน Category ใหญ่กว่าชื่อว่าอะไรเช่น หากเราเขียนถึงโค้ก => ใหญ่กว่าคือ น้ำอัดลม => Soft Drink => เครื่องดื่ม => อาหาร เป็นต้น ถ้า Category ใหญ่กว่าซ้ำกันเราก็ควรใช้อันนั้นเป็นกิ่งใหญ่หรือ Central Idea ไปเลย
1.  แต่ละกิ่งใหญ่ควรใช้สีแยกกันและกิ่งย่อยที่แตกจากสีไหน ก็ให้ใช้สีเดียวกัน เพื่อให้เกิดการจัดกลุ่ม (ถ้ารีบจดก็ยังไม่ต้องแยกสีก็ได้)2.   เส้นกิ่งใหญ่ให้วาดเป็นเส้นหนาๆโค้งๆ รูปตัว s3.   ให้วาดภาพหรือเขียนKeyword หรือของหัวข้อกิ่งใหญ่ในตำแหน่งเหนือกิ่งแต่ละอัน ให้กิ่งทำตัวเหมือนเป็นการขีดเส้นใต้ ห้ามเขียนหัวข้อไว้ปิดปลายกิ่ง เพราะจะเป็นการปิดกั้นไอเดีย(ยกเว้นคิดว่าจะเสร็จแล้วจริงๆ)4.   ตรงหัวข้อตรงกิ่งใหญ่นี่แหละเราสามารถแตกกิ่งออกเป็นสิ่งเหล่านี้ได้ในสถานการณ์ต่างๆ กัน เช่น
-   หากจะสรุปหนังสือ : ก็เป็นหัวข้อสารบัญในหนังสือที่ต้องการสรุป-  หากเป็นสรุปบทความ : ให้ Highlight คำสำคัญที่พบในบทความแล้วนำมาใช้เป็นกิ่งใหญ่-   หากไปประชุม : Agenda การประชุม/สัมมนา-  หากทำProcess ขั้นตอนต่างๆ : ให้เรียงจาก ก่อนไปหลัง1.   จะเริ่มจากทิศ1-2 นาฬิกาไปทิศทางตามเข็มนาฬิกา (ถ้าถนัดขวา)2.   จะเริ่มจากทิศ10-11 นาฬิกาไปทิศทวนเข็มนาฬิกา (ถ้าถนัดซ้าย)3.   ใช้Framework จากเครื่องมืออื่นๆ : เช่น SWOT, 4Ps, Decision Tree, อื่นๆ อีกมากมาย4.   ถ้ายังคิดเรื่องได้ไม่ครบให้แตกกิ่งเปล่าทิ้งไว้ เดี๋ยวสมองเพื่อนๆ จะช่วยหาอะไรมาเติมให้เองทีหลัง5.   แตกกิ่งรายย่อยเป็นรายละเอียดออกมาจากกิ่งใหญ่(แตกออกมาได้ไม่รู้จบ โดยกิ่งย่อยๆ ให้มีขนาดบางกว่ากิ่งใหญ่) ที่สำคัญอย่าเอาอะไรไปปิดปลายกิ่ง ถ้ายังคิดเรื่องที่จะแตกออกมาไม่ออกให้แตกกิ่งเปล่าทิ้งไว้ เดี๋ยวสมองเพื่อนๆ จะช่วยหาอะไรมาเติมให้เองทีหลัง
      เขียน1 คำที่เป็น Keywordต่อ 1 กิ่ง (อย่าเขียนเป็นประโยค)1.   หากคำนั้นแยกเป็นคำประกอบได้ให้แยกคำอีกเช่น คำว่า แม่น้ำ ให้แยกเป็น “แม่” กิ่งนึง จากนั้นต่ออีกกิ่งก้วยคำว่า “น้ำ” เป็นต้น2.   ความยาวของเส้นให้ยาวพอดีๆ กับคำที่อยู่บนเส้น)3.   เส้นไม่ต้องคดเคี้ยวมากเกินไปเอาให้อ่านง่าย
      เทคนิคปลีกย่อย1.   ให้เว้นช่องว่างระหว่างกิ่งไว้ด้วยเผื่อความคิดใหม่ๆ จะโผล่มาอีก2.   การแตกกิ่งตรงนี้อาจใช้หลักการได้ทั้งคิดแบบมีหลักการ(เช่นมีลำดับขั้น เช่น จากทวีป =>ประเทศ => ภาค => จังหวัด=> เขต => อำเภอ…) และคิดแบบฟุ้งซ่าน (หากกิ่งนั้นทำให้นึกถึงอะไรก็เขียนเลย)3.   เส้นต้องเชื่อมกันอย่าให้ขาด(เดี๋ยวความคิดวิ่งไปไม่ถึง)

        มีโปรแกรมช่วยทำหรือไม่?

มีโปรแกรม MIndmap ออกมามากมาย แต่ที่ทำถูกต้องตามหลักOriginal ที่สุด ก็คงไม่พ้นโปรแกรมชื่อ iMindMap ของต้นตำรับอย่าง Tony Buzan เอง เข้าไปโหลดได้ที่ http://www.thinkbuzan.com/โปรแกรม iMindMap มีหลาย Platform ทั้ง pc, iphone, ipad ตัวเต็มเสียตัง แต่มีให้ freetrial อยู่ 7 วัน แนะนำให้โหลดมาแล้วโหลด Templateเก็บไว้ก่อนหมดอายุ  


ที่มา http://www.siraekabut.com/2013/07/mind-map/
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: วิธีการเขียน Mind Map อย่างง่าย