แชร์ประสบการณ์การเรียนภาษาที่อเมริกา Intrax Chicago (Stafford House)
ว่าจะเขียนนานแล้วเรื่องนี้ แต่ไม่ได้เขียนซักที ได้ฤกษ์เขียนซักหน่อยเริ่มแรก ก่อนที่จะมาเรียนที่นี้ ก็ไม่รู้หรอกว่าจะเรียนที่ไหนดี พอดีเสิร์ช Internet เจอ เลยถามน้องสาวว่าที่นี่เป็นยังไงบ้าง ( Intrax ) เพราะน้องสาวเราอยู่ที่ชิคาโกอยู่แล้ว แล้วเราก็ตั้งใจว่าจะมาอยู่เมืองเดียวกับน้องสาวนี่แหละ น้องสาวบอกว่าที่นี่สอนดี เพราะมีเพื่อนเรียนอยู่ เลยตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่ (อีกเหตุผลคือ ค่าเรียนไม่แพงมากอยู่ในระดับที่รับได้ {:6_173:})
หลังจากทำเรื่องขอวีซ่ามาได้เรียบร้อย ก่อนเข้าเรียนเราก็ได้มาคุยกับที่ออฟฟิศเรื่องเวลาเรียน ก็ถึงได้รู้ว่า เราไม่สามารถเลือกเวลาเรียนเองได้ ไอ้เราก็นึกว่ามีเรียนแค่ช่วงเช้า ที่ไหนได้มันมีทั้งรอบบ่ายรอบเช้าเลย แล้วเค้าจะจับยัดเวลาเรียนให้ตามความเหมาะสมเอง โดยจะพยายามคละ นร. แต่ละชาติ ไม่ให้มากองรวมกันมากๆ นอกจากว่าเราจะมีเหตุอันสมควรว่าเราต้องเรียนช่วงนี้จริงๆ โดยจะต้องมีหลักฐานต่างๆมาแสดงถึงจะย้ายเวลาได้ เช่น ต้องไปเรียนที่อื่นอีกเวลานึง ก็ต้องเอา จม.จากอีกที่มายืนยันว่าเราเรียนอีกที่เวลานี้จริงๆ (ทีแรกเราก็เซ็งๆนะได้เรียนรอบบ่าย แต่ตอนนี้ชินแล้วไม่อยากไปเรียนตอนเช้าแล้วขี้เกียจตื่น แหะๆ)
การเลือกวันเข้าเรียน ที่นี่จะเริ่มเรียนทุกวันจันทร์ คือมาครั้งแรกวันจันทร์ ทุกคนจะได้มาสอบวัดระดับตัวเองอยู่ว่าเหมาะสมที่จะเรียนคลาสไหน (รายละเอียดสามารถตามอ่านได้ที่ไดอารี่ ไปเรียนเองวันแรก ) แล้วช่วงเย็นๆเค้าจะเมล์มาบอกเราว่าเราเรียนระดับไหนห้องไหน เวลาอะไร
ของเราภาษาแย่มาก ^ ^" เริ่มเรียนที่เลเวล 3 (จาก 10 -..-) เข้าไปในห้องคนอื่นเริ่มเรียนไปครึ่งเล่มแล้ว เรียนไปประมาณ 1 อาทิตย์กว่าๆ ก็มีสอบเลื่อนชั้น (จะมีการสอบเลื่อนเลเวลทุก2เดือน) เราสอบผ่านก็ได้เลื่อน มาเลเวล 4 ฮี่ๆ
การเรียนการสอนที่นี่
สำหรับเราเรียนแบบธรรมดา (General English)20 ชม./สัปดาห์ จะเรียน จ-พฤ เวลาเรียน ถ้าเรียนช่วงเช้า จะเรียน 8.30 - 12.35 เรียนช่วงบ่ายจะเริ่มเรียน 14.10-18.15 เรียน 2 คาบ วิชา แกรมม่า กับ ฟัง+พูด เรียนคาบละ 2 ชม. มีพักระหว่างคาบทุก ชม.
ถ้าเรียนแบบ 25 ชม./สัปดาห์ จะเรียน จ-ศ. (เวลาเดียวกันกับแบบ 20 ชม.)
แล้วถ้าใครอยากเรียนแบบเข้มข้นพิเศษ 30 ชม./สัปดาห์ ก็เพิ่มได้อีก จะมีเรียนเพิ่มช่วงบ่ายอีก 1 ชม. 13.05-14.05
ภายใน 1 เดือน สามารถขาดเรียนได้ 3 วัน และสายได้ไม่เกิน 15 นาที ถ้าสายเกิน 3 ครั้งนับเป็นขาด 1 วัน ถ้าขาดเกิน 3 วันจะมี จม.เตือน แล้วถ้ายังขาดเรียนอีกจะมีการแจ้งกับทาง immigration แล้วเค้าก็จะส่งเรากลับบ้าน - - (เค้าบอกว่างี้นะ แต่เห็นมีเพื่อนบางคนขาดบ่อยๆ ก็ยังนั่งเรียนอยู่แหะ = =") แต่ทางที่ดีอย่าโดดดีกว่า เสียดายค่าเรียนแพง
คอสที่เปิดสอน
[*]General English
[*]Business English
[*]TOEFL
อาจารย์ที่สอน และวิธีการเรียน
เนื่องจาก พึ่งเรียนแค่ 3 เลเวล เลยบอกได้แค่เท่าที่เราเรียนนะ ^ ^" เราชอบ อาจารย์ที่สอนมากกกกกกก ทั้ง 4 คน ทั้ง ชม. แกรมม่า กับ ฟัง+พูด (คือ อ. 2 คน สลับกันสอน 2 วิชา ตอนเราเรียนเช่น เลเวล 3 กับ 4 เลเวล 3 เรียนแกรมม่ากับอีกคน พูดกับอีกคน พอเลเวล 4 อ.ที่สอนพูดสลับมาสอนแกรมม่า อ.ที่สอนแกรมม่า มาสอนพูด) เลเวล 5 เราเปลี่ยน อ. ที่สอน ทั้งแกรมม่ากับ ฟังพูด อ. ทั้ง 2 คน สอนสนุก ฮามาก
อ.ทั้ง 4 คน สอนสนุก ไม่น่าเบือ มีเกมส์ให้เล่นตลอด แล้ว อ.จะบังคับให้ นร.ทุกคนพูด พูด และพูด ในห้องจะมีประมาณ 10 คน/ห้อง อ.จะให้จับคู่กับ นร.คนละชาติ แล้วได้ฝึกพูดกันตลอดและในห้องเรียน จะมีกฏให้พูดภาษาอังกฤษเท่านั้น แม้จะเป็นคนประเทศเดียวกันก็ห้ามพูดภาษาถิ่น ทำให้เราได้ฝึกการพูดตลอด ชอบมาก
นอกจากการเรียนตามแกรมม่าแล้ว อ.ยังมีสอนการพูดแบบอเมริกันที่ใช้กันตามปกติในชีวิตประจำวันด้วย เช่น ตามแกรมม่าพูดแบบนี้ แต่เวลาใช้จริงๆในชีวิตประจำวันจะพูดแบบนี้ ออกเสียงแบบนี้ แล้วให้เราทุกคนลองหัดพูดตามกัน
คลาสฝึกพูด ก็จะมี TA คนอเมริกันมานั่งคุยด้วย เพื่อให้เราได้ฝึกพูดกับคนอเมริกันจริงๆ (เพราะในห้องมีแต่ นร.ต่างชาติสำเนียงแปลกๆกันทั้งนั้น ^ ^")
หนังสือที่ใช้เรียน เป็นหนังสือที่มีแปะ Oxford ไว้ด้วย พิมพ์ 4 สี สวยงาม อ่านเข้าใจง่าย พร้อมแบบฝึกหัด 2 เล่ม แล้ว อ.จะมีการบ้านให้ทำทุกวัน ซึ่งต้องทำส่งทุกวัน จะมีการเช็คด้วยว่าเราทำการบ้านมารึเปล่า
กิจกรรมอื่นๆ
ที่นี่มักจะมีกิจกรรมให้ นร.ทำอยู่เสมอๆ ทาง รร.จะมี ตารางกิจกรรมต่างๆบอกทั้งที่ รร.จัด และทั้งที่ Chicago จัด แต่ละกิจกรรมจะมีบอกด้วยว่าฟรีมั๊ย ถ้าไม่ฟรีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เอาไว้ให้เราพิจารณาว่าจะเข้าร่วมรึเปล่า
ที่เราเคยเข้าร่วมก็มีกิจกรรมปิคนิค อ่านได้ที่นี่ ปิคนิคกับที่ รร. กับ Hiking (เดี๋ยวจะเขียนวันหลัง ^ ^") ปิคนิคนี่ไม่มี ค่าใช้จ่าย มีขนม+น้ำฟรี ส่วน Hiking นี่(เดินป่า) มีค่ารถ 30 ดอล กับกิจกรรมหลังสอบ จะมีนำอาหารมารวมๆกันแล้วกินด้วยกัน
แล้ววันหลังสอบ จะมีกิจกรรมให้เลือก โดยแต่ละเลเวล จะเลือกทำกิจกรรมได้ต่างกัน ของเราเลเวล 4 รอบนี้เราเลือกกิจกรรมออกไปข้างนอก จะมีคำถามเป็นภาษาอังกฤษ อ.จะให้อ่านคำถามแล้วหาคำตอบโดยการถ่ายรูปมา รูปถ่ายถ้าถูกต้องก็จะได้คะแนน แล้วจะมีคะแนนพิเศษคือ เห็นทุกคนในทีม มีคนอเมริกันมาถ่ายด้วย แล้วก็มีการถ่ายท่าแปลกๆครีเอท ก็จะมีแต้มพิเศษ (ไว้เรื่องนี้จะเขียนเล่าละเอียดในไดอารี่อีกที) ซึ่งทีมเราได้คะแนนสูงสุด ได้บัตรซื้อดังกิ้นโดนัทเป็นรางวัลคนละใบ ใบละ 5 ดอล อิอิ{:6_178:} ก็สนุกดีนะ แต่อากาศข้างนอกหนาวมาก - -
5-6 องศาอะ {:6_171:} (จริงๆมีกิจกรรมข้างในตึกอยู่ เป็นเล่นเกมส์ แต่เราเลือกจะออกมาข้างนอกเองแหละ ^ ^")
ตึกที่เรียน
ทางเข้าไม่ใหญ่นะ แต่ว่าข้างบนค่อนข้างใหญ่ มี ทั้งหมด 3 ชั้น ห้องเรียนอยู่ชั้น 2 กับ3 แบ่งเป็นห้องเรียนย่อยๆเยอะมาก (แต่ละเลเวลจะมี 2 ห้องเรียน) มีห้องคอมพิวเตอร์ ให้ใช้ฟรี ปริ๊นงานฟรี 2 ห้อง (ชั้น 2 ชั้น3 อย่างละห้อง) มี Living Room ขนาดใหญ่ 1 ห้องและ ห้องกินข้าวอีก 1 ห้อง (มีไมโครเวฟและตู้เย็นให้ใช้งานด้วยย)
นร.ที่นี่
โซน เกาหลี ไทย ซาอุ ค่อนข้างเยอะ มี ญี่ปุ่น ตุรกี บลาซิล และอื่นๆ นิดหน่อย ที่เยอะสุด น่าจะเกาหลี ^ ^"
บางคนห่วงนะ เพื่อนคนไทยเยอะกลัวจะไม่ได้ภาษา เรื่องคบคนไทย คบๆไปเหอะ พูดภาษาไทย อิสาน ลาวเหนือพูดไป แต่ หาเพื่อนต่างชาติไว้ด้วย คุยกับต่างชาติเยอะๆ แม้ภาษาสำเนียงแต่ละคนจะพิลึกๆ อย่าได้แคร์ อย่างน้อยเราก็ได้ฝึกใช้กระบวนการคิด การใช้ศัพท์ว่าเราควรใช้คำพูดแบบไหนในประโยคแบบไหน คนบนโลกนี้ไม่ได้มีแต่คนอเมริกานะ พูดๆไปเหอะ
ภาษามีไว้ติดต่อสื่อสารให้คุยกันรู้เรื่องไม่ได้คุยเพื่ออวดกันว่าสำเนียงใครดีแกรมม่าเป๊ะ เพราะงั้นสื่อสารกันเข้าใจ สำหรับเราพอใจแล้ว
เพิ่มเติม ใครสนใจอ่านของ Intrax San Diego อ่านได้ที่นี่นะคะ แชร์ประสบการณ์เรียนภาษาที่ Intrax San Diego
Intrax San Francisco อ่านได้ที่นี่นะคะ เรียนภาษาที่อเมริกา Intrax San Francisco
ผู้เขียน : LinZ:www.KhonthaiAmerica.com
ถ้าสนใจเรียนที่ Intrax ทุกสาขา (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Stafford House แล้ว) สามารถติดต่อสอบถามส่วนลดหรือโปรโมชั่นพิเศษกับเราได้ค่ะ ทางเรามีส่วนลดค่าเรียนราคาพิเศษ (ถูกกว่าสมัครเรียนเองค่า) ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.khonthaiamerica.com/contacts/หรือที่ Facebook : https://www.facebook.com/KhonThaiAmerica/
ทางเรามี จนท. คนไทยช่วยดูแลอยู่หลายเมือง สามารถตรวจสอบรายชื่อ จนท. ของเราได้ที่นี่ค่ะ http://www.khonthaiamerica.com/services/khon-thai-america-staff/
ค่าเรียนคิดยังไงคะ จ่ายครั้งละเลเวลหรือทั้งคอร์สเลย รูปของกินทั้งนั้นเลยนะ - - kan ตอบกลับเมื่อ 2012-11-6 16:36 static/image/common/back.gif
ค่าเรียนคิดยังไงคะ จ่ายครั้งละเลเวลหรือทั้งคอร์สเล ...
จ่ายเป็นคอสอะ 6 เดือน 1 ปี อะไรงี้ ถ้าลงเรียน 6 เดือน ราคาประมาณเท่าไรค่ะ kuminum_nook ตอบกลับเมื่อ 2012-11-7 10:10 static/image/common/back.gif
ถ้าลงเรียน 6 เดือน ราคาประมาณเท่าไรค่ะ ...
ประมาณ 160,000 บาท ครับ ตกเดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท จัดว่าราคาปานกลางครับพี่นุ๊ก
ที่นี่หลินเค้าเรียนอยู่มีอะไรถามหลินได้เลยครับ
จริงๆแล้วแต่โปรโมชั่นแต่ละช่วงด้วยนะคะ ถ้าเรียน 6 เดือน หลักสูตร แบบ 20 ชม/สัปดาห์ราคาอยู่ทีประมาณ 5,200 เหรียญ เป็นเรทปี 2013
ปี 2012 จะประมาณแค่ 5,000 เหรียญ
ขอบใจจ๊ะ ราคาพอรับได้น่าสนใจทีเดียว แต่ถ้ามีสถาบันอื่นๆๆ มาแนะนำด้วยก็ดีนะ จะได้มีหลายตัวเลือกให้ตัดสินใจจ๊ะ เดี๋ยวจะดูที่อื่นๆให้ด้วยนะคะ
แต่เท่าที่หลินเช็คราคา รร แบบที่เรียน สอน ดีๆ จะมีที่ Intrax กะ Kaplan แต่ของ Kaplan จะแพงกว่า (อันนี้ของชิคาโกนะคะ ของที่อื่นต้องขอเวลาเช็คอีกที)
เพิ่มเติมรูป บรรยากาศ ที่ รร
ทางเดินหน้าห้อง
ห้องเรียนเราเอง อันนี้เลเวล 5 อาจารย์สอนแกรมม่า อ.แกฮามากๆ
มีกฏแปะที่ประตูด้วย -0-
http://www.khonthaiamerica.com/data/attachment/forum/201707/19/105735x2mmxaygcgizumc5.jpg
รูปตอนไปเดินป่ากับเพื่อนๆที่ รร. กลุ่มเด็กเอเชีย (มีบราซิลห้อยมาด้วยคนนึง)
ดูรูปและอ่านไดอารี่ตอนไป Hiking (เดินป่า) ได้>>ที่นี่
หน้า:
[1]
2