ice999 โพสต์เมื่อ 2017-9-1 19:28:33

Pittsburgh, PA หนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ในอเมริกา

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ice999 เมื่อ 2018-7-6 15:00



                 Pittsburgh  เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐเพนซิลเวเนีย เป็นเมืองที่มักติดอันดับเมืองน่าอยู่และวิวทิวทัศน์อันสวยงามของอเมริกาเสมอ เมืองนี้มีประวัติศาสตร์สำคัญในเรื่องการผลิตเหล็กกล้า มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น และความร่ำรวยทางวัฒนธรรม
                 สภาพทางภูมิศาสตร์ของเมืองนี้ก็มีเอกลักษณ์เช่นกัน แม่น้ำ 2 สาย ได้แก่ Monongahela และ Allegheny มาบรรจบกันเกิดเป็นแม่น้ำ Ohio ทางน้ำเหล่านี้แบ่งตัวเมืองออกเป็นย่านต่างๆ เกือบ 100 ย่านที่ทั้งสร้างบนและรอบๆ เนินเขาสูงอันงดงาม



ความเป็นอยู่ใน Pittsburgh
Pittsburgh เป็นเมืองปลอดภัย ค่าครองชีพไม่แพง เมืองไม่วุ่นวายหรือเงียบจนเกินไป มีกิจกรรมให้ทำเยอะ



อากาศใน Pittsburgh
อากาศค่อนข้างเย็นเกือบตลอดทั้งปี ใครชอบอากาศหนาว ๆ  ต้องชอบเมืองนี้อย่างแน่นอน ^^



การคมนาคม
เน้นการใช้รถยนต์และรถสาธารณะ เมืองนี้จะไม่ค่อยมีใครปั่นจักรยานนะคะ เพราะมีเนินเขาเยอะ รถสาธารณะก็สจะมี  bus, light rail, incline และ paratransit

Bus ค่าโดยสาร $2.75 แต่หากมี ConnectCard จ่ายแค่ $2.50 โดยจ่ายบนรถบัสได้เลย นอกจากนี้ยังมี ค่าโดยสารต่อวัน $7 รายสัปดาห์ $25 รายเดือน $97.50 รายปี $1,072.50

Light Rail มีชื่อเรียกว่า "T"  ให้บริการฟรีตั้งแต่ 7.00-16.00 ในโซนดาวน์ทาวน์รวมไปถึง Allegheny, จากแม่น้ำ Monongahela ถึง Ross Street เป็นต้น แผนที่เดินรถ


สถานที่ที่น่าสนใจใน Pittsburgh



1. Monongahela Incline
นั่งรถชมวิวเมืองด้วย Monongahela Incline หากเรา นั่งรถ Monongahela Incline ขึ้นไปสุดยอดเขาวอชิงตันแล้วมองกลับมาที่เส้นขอบฟ้าเมืองพิตต์สเบิร์ก เราจะเข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดเมืองนี้จะมักได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีวิวงดงามที่สุดในสหรัฐอเมริกา



แต่เดิมนั้น Monongahela Incline หรือที่ชาวเมืองเรียกว่า "The Mon" สร้างขึ้นสำหรับผู้อพยพชาวเยอรมันในพิตต์สเบิร์กที่อาศัยอยู่บริเวณส่วนที่ยื่นขึ้นไปของเขาวอชิงตัน ซึ่งบางคนเรียกว่า Coal Hill ทางรถไฟนี้สร้างขึ้นในปี 1870 และได้รับการยอมรับว่าเป็นกระเช้าไฟฟ้าที่ยังใช้งานอยู่ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ นอกจากนี้ยังชันที่สุดด้วย โดยมีความลาดเอียง 35 องศา ปัจจุบันกระเช้าไฟฟ้านี้ทำหน้าที่สองอย่าง โดยเป็นทั้งบริการขนส่งมวลชนให้ผู้ที่อาศัยที่เขาวอชิงตัน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยว



เราสามารถซื้อตั๋วได้จากตู้ขายตั๋วที่อยู่ตรงข้ามกับศูนย์การค้า Station Square ก้าวเข้ามาในรถกระเช้าไฟฟ้าและไต่ขึ้นเขาด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปตามรางยาว 194 เมตร กระเช้าไฟฟ้าแต่ละตู้ได้รับการบูรณะให้มีลักษณะเหมือนกระเช้าดั้งเดิมที่คนงานเหมืองใช้กัน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้นั้นทำงานได้ดีและเป็นแบบสมัยใหม่



เมื่อถึงยอดเขาความสูง 112 เมตรที่มีวิวเส้นขอบฟ้าเมืองพิตต์สเบิร์กแบบไม่มีสิ่งกีดขวาง ให้เดินเล่นรอบๆ บริเวณเขาวอชิงตันอันเก่าแก่ ซึ่งยังมีบ้านเรือนของคนงานเหมืองดั้งเดิมตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 19




2. สะพาน Roberto Clemente
การเดินผ่านสะพานซึ่งเป็นที่นิยมในท้องถิ่นแถบนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนปิดสะพานไม่ให้ยานพาหนะแล่นผ่านระหว่างจัดการแข่งขันกีฬา แนะนำให้เลือกมาที่นี่ในวันที่ทีม Pittsburgh Pirates หรือทีม Steelers ได้เล่นเป็นทีมเหย้าและเข้าร่วมขบวนกับมวลชนที่เดินแห่ข้ามสะพาน Roberto Clemente ในวันที่มีการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลและเบสบอล สะพานซึ่งพาดผ่านแม่น้ำ Allegheny นี้จะปิดไม่ให้รถยนต์วิ่ง โดยจะมีนักแสดงเรียงรายริมถนนและแฟนกีฬาเต็มไปหมด ทุกคนในครอบครัวจะได้สนุกกับกิจกรรมนี้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขันก็ตาม กีฬาเบสบอลเล่นที่สนาม PNC Park และอเมริกันฟุตบอลเล่นที่สนาม Heinz Field Stadium
เราสามารถมาที่สะพาน Roberto Clemente โดยใช้ถนน Sixth Street สะพานนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมง




3. ศูนย์วิทยาศาสตร์ Carnegie
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดในปี 1991 และมีนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟที่ได้ลงมือจริงกว่า 400 จุดภายในพื้นที่ 5 ชั้น นอกจากนี้ยังมี Highmark SportsWorks ที่อยู่ในตึกข้างๆ และเรือดำน้ำ USS Requin ที่จอดไว้ริมแม่น้ำในบริเวณใกล้เคียงด้วย




เราจะได้ท่องโลกวิทยาศาสตร์อันน่าตื่นตาตื่นใจที่พิพิธภัณฑ์ยอดนิยมของเมืองพิตต์สเบิร์ก และลอยละล่องแบบไร้แรงดึงดูดเหมือนนักบินอวกาศ สำรวจการทำงานภายในเรือดำน้ำสมัยสงครามเย็น หรือสนทนากับหุ่นยนต์อัจฉริยะ ทั้งหมดนี้และอื่นๆ อีกมากมายรอคุณอยู่ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ Carnegie



ศูนย์วิทยาศาสตร์ Carnegie ตั้งอยู่ที่ North Shore ของพิตต์สเบิร์ก ติดกับ Heinz Field รถไฟใต้ดินฟรี T-Plus จอดใกล้ๆ กันที่ Allegheny Station ศูนย์นี้เปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยในวันศุกร์และเสาร์จะเปิดจนถึงค่ำ มีค่าธรรมเนียมเข้าชม



4. สวน Schenley
สวนสาธารณะ Schenley ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างย่านที่อยู่อาศัยโอ๊กแลนด์กับกรีนฟิลด์ในเมืองพิตต์สเบิร์กแห่งนี้มีพื้นที่ 184 เฮกตาร์ เป็นที่ที่เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวายเข้าสู่โลกแห่งกิจกรรมกลางแจ้ง สวนนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของพิตต์สเบิร์กและเป็นจุดพักผ่อนที่ชาวเมืองโปรดปรานมานานกว่าร้อยปี



สวน Schenley มีการจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี กิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ Vintage Grand Prix ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งดึงดูดผู้เข้าร่วมงานกว่า 200,000 คน อีกกิจกรรมที่เป็นที่ชื่นชอบของชาวเมืองก็คือการฉายภาพยนตร์กลางแจ้งฟรีที่จัดขึ้นในตอนเย็นในหน้าร้อน

สวน Schenley เปิดให้เข้าได้ทุกวัน ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเข้าสวน แต่สิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่าง เช่น ลานสเก็ตน้ำแข็ง และสนามกอล์ฟ มีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย คุณสามารถจอดรถได้ฟรีที่ Schenley Drive ในตอนเย็นและตลอดทั้งวันในวันอาทิตย์



5.พิพิธภัณฑ์ Andy Warhol
ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ คุณจะได้เรียนรู้ทุกแง่มุมเกี่ยวกับราชาแห่งป๊อปอาร์ต ชาวพิตต์สเบิร์กที่แปลกประหลาดและโด่งดังที่สุดคนหนึ่ง
พิพิธภัณฑ์ Andy Warhol อยู่ที่ North Shore ของพิตต์สเบิร์ก เพียงข้ามสะพาน Andy Warhol มาก็ถึง มีค่าธรรมเนียมเข้าชม พิพิธภัณฑ์นี้ปิดทำการในวันจันทร์และวันหยุดประจำชาติ มีที่จอดรถแบบเสียค่าจอดอยู่ทางเหนือของพิพิธภัณฑ์



6. Kennywood
สวนสนุก Kennywood เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 1898 และปัจจุบันยังคงสร้างความหรรษาให้แก่ทุกคนในครอบครัว คุณจะได้พบทั้งเครื่องเล่นล้ำสมัยและเครื่องเล่นแบบฉบับดั้งเดิมที่สร้างความลงตัวระหว่างความตื่นเต้นเร้าใจแบบไฮเทคกับบรรยากาศย้อนอดีต



หากต้องการพักจากความหวาดเสียวเร้าใจ ก็ไปเพิ่มความสดชื่นกันได้ที่คาเฟ่และร้านอาหารที่มีให้เลือกกว่า 30 แห่งทั่วสวนสนุก มีตัวเลือกมากมายตั้งแต่อาหารเบาๆ ทานกับกาแฟ ไปจนถึงแฮมเบอร์เกอร์และพิซซ่า



Kennywood เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนสิงหาคม เมื่อซื้อบัตรผ่านประตู คุณจะสามารถเล่นเครื่องเล่นได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีบัตรผ่าน Night Rider ที่ขายตอนเย็นในราคาที่ถูกกว่า สวนสนุกนี้อยู่ห่างจากใจกลางเมืองพิตต์สเบิร์กไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 16 กิโลเมตร และมีที่จอดรถให้บริการฟรี หรือจะโดยสารรถ Port Authority Transit (PAT) จากใจกลางเมืองพิตต์สเบิร์กที่ให้บริการช่วงที่สวนสนุกเปิดก็ได้



7. Duquesne Incline
ย้อนเวลากลับไปสมัยก่อนด้วยการก้าวเข้าสู่รถกระเช้า Duquesne Incline ที่สร้างจากไม้ ซึ่งจะพาคุณขึ้นไปบนยอดเขาวอชิงตัน ทางรถไฟนี้มีการใช้งานมาตั้งแต่ปี 1877 โดยในสมัยนั้นทำหน้าที่บรรทุกถ่านหินลงมาตามเชิงเขา ปัจจุบัน วิวจากด้านบนสุดที่มองเห็นแม่น้ำสายต่างๆ ของพิตต์สเบิร์กและวิวตัวเมืองเป็นสิ่งที่ผู้มาเยือนไม่ควรพลาด





รถกระเช้านี้เป็นเพียงหนึ่งในสองสายที่หลงเหลืออยู่จากสมัยที่พิตต์สเบิร์กยังเป็นเมืองทำเหมืองถ่านหินที่รุ่งเรือง ทางรถไฟอีกสายหนึ่งคือ Monongahela Incline ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ Duquesne เกือบจะถูกปิดไปตลอดกาลในปี 1962 แต่ชาวเมืองกลุ่มหนึ่งได้ช่วยกันปกป้องและบูรณะในปี 1963 สภาพส่วนมากที่เห็นทุกวันนี้มีลักษณะเหมือนดังเดิมที่สร้างเมื่อปี 1877


คนท้องถิ่นใช้ Duquesne Incline เป็นบริการขนส่งมวลชนอย่างหนึ่ง รถนี้ให้บริการทุกวันตั้งแต่เช้าตรู่ถึงหลังเที่ยงคืน โดยในวันอาทิตย์จะหยุดบริการเร็วกว่าปกติ ในการเดินทางมาที่สถานีด้านล่าง คุณสามารถนั่งรถโดยสารมาจากดาวน์ทาวน์พิตต์สเบิร์ก ถ้าขับรถมา สถานีด้านล่างก็มีที่จอดรถให้บริการฟรี


8. พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ Carnegie
พิพิธภัณฑ์นี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1896 ภายในเก็บตัวอย่างสิ่งของต่างๆ กว่า 22 ล้านชิ้น โดยจะจัดแสดงทีละประมาณ 10,000 ชิ้น ภายในแบ่งออกเป็นแกลเลอรี่ 20 ส่วนซึ่งแสดงทุกอย่างตั้งแต่ชีวิตสัตว์ป่าในทวีปแอฟริกา อเมริกา และอาร์กติก ไปจนถึงสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยาบนโลก

เราจะได้ดูสิ่งมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา หรือฟอสซิลโบราณ คุณจะได้ชื่นชมทั้งหมดที่สถาบันในพิตต์สเบิร์กนี้ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ



9. National Aviary
National Aviary เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครและมีสีสันที่สุดในพิตต์สเบิร์ก ด้วยนกกว่า 600 ตัวจาก 200 สายพันธุ์ รวมถึงพันธุ์ที่หายากและเกือบสูญพันธุ์มากมาย มองผ่านกิ่งก้านของต้นไม้ในป่าฝนเขตอบอุ่นและสอดส่ายสายตาหาปีกสีสดของนกแก้วหรือนกแก้วแปซิฟิกที่อยู่ท่ามกลางใบไม้ ในแถบพื้นที่ชุ่มน้ำ คุณจะพบกับนกฟลามิงโก นกกระทุง และนกปากช้อนที่กำลังหาอาหาร รับรองว่าคุณจะต้องประทับใจกับขนาดของอินทรีทะเลที่ Eagle Hall ที่สวนนกแห่งนี้มีอะไรให้ดูมากมายที่จะทำให้ทั้งครอบครัวง่วนไปตลอดเช้าหรือบ่าย



ถ้าเกิดหิวขึ้นมาระหว่างเที่ยวชม คุณสามารถไปที่ Kookaburra Kitchen ซึ่งมีอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายตลอดทั้งวัน

National Aviary ตั้งอยู่ใน West Park ทาง North Side อันเก่าแก่ของพิตต์สเบิร์ก สวนนกนี้เปิดทุกวันและมีค่าธรรมเนียมเข้าชม มีที่จอดรถแบบเสียค่าจอดในบริเวณใกล้เคียง




10. Senator John Heinz History Center
Heinz History Center เป็นแหล่งรวมความรู้ที่สำคัญสำหรับชาวเมืองและนักท่องเที่ยวที่สนใจศึกษาประวัติศาสตร์อันเข้มข้นของเมืองพิตต์สเบิร์ก คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของผู้อพยพที่มีต่อการก่อร่างสร้างเมืองระดับโลกแห่งนี้ ปีนขึ้นรถรางอันโด่งดังจากสมัยทศวรรษ 1940 และเพลินไปกับการค้นพบประวัติศาสตร์การกีฬาที่หลากหลายของพื้นที่นี้ เวลาตลอดทั้งเช้าหรือบ่ายจะผ่านไปแทบไม่รู้ตัวที่นี่ ด้วยสิ่งของต่างๆ หลายพันชิ้นที่จัดแสดงทั่วทั้ง 6 ชั้นของศูนย์แห่งนี้ ตลอดจนนิทรรศการทั้งแบบถาวรและที่สับเปลี่ยนหมุนเวียน



11. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์พิตต์สเบิร์ก
พบกับสัตว์เกือบ 500 สายพันธุ์แบบใกล้ชิดและเป็นส่วนตัว ณ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์ที่สำคัญของประเทศ

ค่าผ่านประตูสวนสัตว์รวมค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแล้ว คลานลอดอุโมงค์เพื่อชมปลากระเบน แวะชมฉลามในตู้เลี้ยงความสูงเท่าตึกสองชั้น หรือตื่นตาตื่นใจไปกับปลาจากทั่วทุกมุมโลกที่ตู้ปลาหมุน

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและสวนสัตว์พิตต์สเบิร์กตั้งอยู่ใน Highland Park ห่างจากดาวน์ทาวน์มาทางตะวันออกประมาณ 10 กิโลเมตร มีที่จอดรถฟรีและป้ายจอดรถโดยสาร Port Authority Transit (PAT) ก็อยู่ใกล้ๆ สวนสัตว์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันขอบคุณพระเจ้า วันคริสต์มาส และวันขึ้นปีใหม่ มีค่าผ่านประตูเล็กน้อย




สถาบันที่แนะนำใน Pittsburgh
English Language Institute (ELI)ที่ University of Pittsburgh



            ใครที่สนใจเรียนที่ Pittsburgh สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อีเมล enroll@khonthaiamerica.com หรือทาง Inbox https://www.facebook.com/KhonThaiAmerica   ทางเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนอยู่ตามเมืองต่างๆเช็ครายชื่อเจ้าหน้าที่ ที่นี่  http://khonthaiamerica.com/services/khon-thai-america-staff/

ที่มา
https://www.expedia.co.th/Pittsburgh.d601717.Travel
https://th.wikipedia.org/wiki
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: Pittsburgh, PA หนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ในอเมริกา