Tennessee รัฐแห่งเพลงคันทรีที่น่าหลงใหล
Tennessee เป็นรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ในสหรัฐอเมริกา ชื่อของรัฐเทนเนสซีถูกบันทึกครั้งแรกโดยฮวน ปาร์โด นักสำรวจชาวสเปน ภายใต้ชื่อ "Tanasqui" เมืองสำคัญในรัฐเทนเนสซีได้แก่ แนชวิลล์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐเทนเนสซี ส่วนใหญ่เป็นชาวผิวขาว 80% ผิวดำ 16% เอเชีย 1.2% มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้แก่ มหาวิทยาลัยเทนเนสซี นอกจากนี้ ยังเป็นบ้านเกิดของเอลวิสด้วยค่ะ (เมือง Memphis)
Tennessee ได้ชื่อว่าเป็นรัฐแห่งเพลงคันทรีโดยจะมีการประกวดแข่งขันเพลงคันทรีทุกปีในเมืองแนชวิลล์ค่ะ รัฐนี้ความหลากหลายทางด้านดนตรีและวัฒนธรรม มีความสงบของเมืองตามแบบฉบับคันทรี ไม่วุ่นวายมาก และยังมีเทศกาลดนตรีร๊อค จัดขึ้นที่นี่ด้วย นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นรัฐที่มีค่าครองชีพต่ำ ผู้คนเป็นมิตรมากที่สุดในอเมริกาค่ะ (จากนิตยสาร Travel Leisure)
อากาศในรัฐ Tennessee
อากาศไม่ร้อนและไม่หนาวมาก ถือว่าเป็นรัฐที่อากาศดีเลยค่ะ มีหิมะด้วย ช่วงเดือน มค. อยู่ที่ประมาณ 4 องศา, เม.ย. ประมาณ 17 องศา, ก.ค. ประมาณ 28 องศา, ต.ค. ประมาณ 17 องศา
การเดินทาง
การเดินทางในรัฐถือว่ามีความสะดวกสบาย ในแต่ละเมืองก็จะมีบริษัทของรถหรือรถไฟที่แยกกันออกไป มีทั้ง Rail, Bus และอื่น ๆ เช่น เมือง Cookville จะมีรถบัสของ CATSให้บริการ 3 สาย มีสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน สายสีทอง
ัวันและเวลาการให้บริการสายสีเขียว
Monday - Thursday
7:00am - 6:00pm
Friday
7:00am - 10:00pm
Saturday
10:00am - 10:00pm
ัวันและเวลาการให้บริการสายสีน้ำเงิน
Monday - Friday
7:00am - 6:00pm
วันและเวลาการให้บริการสายสีทอง
Monday - Friday
7:30am - 4:30pm
ราคาSingle Trip: $1.00
Senior Citizen: 50¢
Disabled: 50¢
TTU Student: FREE (with TechID) สำหรับใครที่เรียนภาษาหรือเรียน ป.ตรี ที่ Tennessee Tech University สามารถขึ้นฟรีค่ะ
Passes:
Day Pass : $3
10 Rides: $10
30 Rides: $25
นอกจากนี้ยังมี Express Bus จาก Cookville ไป Nashville อีกด้วย เช็คตารางที่นี่
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
1. Parthenon - แนชวิลล์
วิหารพาร์เธนอน มีตำนานเทพปกรณัมกรีกซึ่งจำลองเท่าขนาดจริงของต้นแบบในกรุงเอเธนส์
2. Grand Ole Opry
เริ่มจากที่เป็น "การเต้นรำในโรงนา" เมื่อปี 1925 จนมาถึงปัจจุบัน Grand Ole Opry คือรายการวิทยุที่ดำเนินมาเป็นเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติอเมริกา โปรแกรมความยาวสองชั่วโมงออกอากาศสดทุกคืนวันศุกร์ คืนวันเสาร์ และคืนวันอังคาร ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนธันวาคม แต่ละรายการจะเปิดผลงานของศิลปินมากหน้าหลายตา ทั้งตำนานเพลงคันทรีไปจนถึงศิลปินหน้าใหม่ ผสมระหว่างแนวบลูกราส กอสเปล โฟล์ค และคันทรี
3. สวนสัตว์แนชวิลล์
สวนสัตว์แนชวิลล์ก่อตั้งเมื่อปี 1996 นับว่ายังอายุน้อยนักเมื่อเทียบกับสวนสัตว์ใหญ่แห่งอื่นในสหรัฐอเมริกา แต่เพื่อชดเชยขวบปีที่น้อยกว่า ที่นี่ได้สร้างความหลากหลายของสายพันธุ์และการอยู่ร่วมกันของสัตว์ได้เป็นอย่างดี จุดสนใจหลักของสวนสัตว์ที่แผ่เขตกว้างขึ้นเรื่อยๆ แห่งนี้คือฟาร์มและบ้านประวัติศาสตร์ Grassmere ที่ได้ลงทะเบียนในระดับชาติ
4. คฤหาสน์ Hermitage
คฤหาสน์ Hermitage คือบ้านหลังโอ่อ่าและสถานพำนักที่สุดท้ายของแอนดรูว์ แจ็คสัน ประธานาธิบดีคนที่เจ็ดของสหรัฐอเมริกา สิ่งสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติหลังนี้ครั้งหนึ่งเคยเป็นไร่และฟาร์มอันรุ่งเรือง ปัจจุบันกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อมอบความรู้ความเข้าใจในชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันระหว่างศตวรรษที่ 19
5. ไร่ Belle Meade
ภายในย่านพักอาศัยอันอู้ฟู่หรูหราชื่อเดียวกันนั้น ไร่ Belle Meade เป็นที่สร้างบรรยากาศให้ละแวกข้างเคียงทั้งหมด ครั้งหนึ่งเคยเป็นไร่ที่มั่งคั่งที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ รวมทั้งเป็นฟาร์มเพาะม้าสายพันธุ์ดี ปัจจุบัน Belle Meade เปิดรั้วต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกวันในฐานะพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร และโรงไวน์
6. ศูนย์วิทยาศาสตร์ผจญภัย
ศูนย์วิทยาศาสตร์ผจญภัยสำหรับครอบครัว คือที่ฝึกสมองและเปิดโลกแห่งจินตนาการชั้นเยี่ยมของเด็กๆ นิทรรศการเชิงโต้ตอบเป็นพิเศษแบ่งออกเป็นหัวข้อประสาทสัมผัสทั้งห้า ไดโนเสาร์ และนอกอวกาศ จึงสะดวกต่อการศึกษาเที่ยวชม
7. สวนสาธารณะริเวอร์ฟรอนท์
สวนสาธารณะริเวอร์ฟรอนท์อยู่บนชายฝั่งแม่น้ำคัมเบอร์แลนด์ เป็นสถานที่จัดคอนเวิร์ตและเทศกาลกลางแจ้งรายการต่างๆ ตลอดปี ขณะนี้กำลังมีแผนการพัฒนาบริเวณริมน้ำ เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว สวนแห่งนี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปัจจุบันอีกสิบเท่าตัว แต่ระหว่างนี้ ที่นี่ก็ยังเป็นสถานที่สบายๆ สำหรับให้คุณหลบออกมาจากย่านดาวน์ทาวน์ของแนชวิลล์ หากสภาพอากาศไม่ชื้นแฉะจนเกินไปนัก เตรียมอาหารปิกนิกแล้วนั่งดูเรือการแสดง General Jackson แล่นผ่านไป
8. พิพิธภัณฑ์ประจำรัฐเทนเนสซี
พิพิธภัณฑ์ประจำรัฐเทนเนสซีมุ่งให้ความสนใจในประวัติความเป็นมาของแดนใต้ และเป็นที่เก็บสะสมเรื่องราวสงครามกลางเมืองไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งจองสหรัฐอเมริกา นิทรรศการถาวรครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,574 ตารางเมตร โดยยังมีอีก 929 ตารางเมตรที่อุทิศให้สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา คุณควรเผื่อเวลาราวครึ่งวันเพื่อจะสำรวจสมบัติอันมากล้นของที่นี่ได้อย่างทั่วถึง
9. หอเกียรติคุณและพิพิธภัณฑ์เพลงคันทรี
พิพิธภัณฑ์จัดเก็บสำเนาเพลงคันทรีที่ได้มีการบันทึกไว้ตั้งแต่สมัยก่อนสงครามได้มากถึง 98 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นยังรักษาฟุตเทจภาพยนตร์และโทรทัศน์ไว้เป็นความยาวนับร้อยกิโลเมตร ภาพถ่าย ใบปลิวการแสดง และโปสเตอร์อีกหลายพันชิ้น ตลอดจนมีประวัติศาสตร์มุขปาฐะอีกหลายร้อยรายการ มีเครื่องแต่งกายบนเวทีกว่า 800 ชุด เครื่องดนตรีกว่า 600 ชิ้น และวัตถุสำคัญอื่นๆ อีกหลายร้อยชิ้นตั้งแต่ไมโครโฟนจนถึงรถยนต์ เนื่องจากคอลเล็กชั่นมีปริมาณมหาศาล จึงสามารถแบ่งมาจัดแสดงได้เพียงครั้งละ 10 เปอร์เซ็นต์ของที่มีอยู่เท่านั้น แต่ยังโชคดีที่วัตถุสำคัญต่างๆ มีการผลัดเวียนอยู่อย่างสม่ำเสมอ
สถาบันที่น่าสนใจ
FLS Tennessee Tech University ตั้งอยู่ที่ Cookeville ที่นี่นอกจาก จะสอนภาษา ตามปกติแล้ว ยังมีโปรแกรม FLS Pathways มีโปรแกรมการเรียนการสอนที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้นักเรียนสมัครเข้าวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยได้อย่างประสิทธิภาพ พร้อมได้รับการตอบรับเข้าศึกษาต่อล่วงหน้า ซึ่งที่นี่มีมหาวิทยาลัยที่เป็นพาร์ทเนอร์มากกว่า 100 แห่ง ทั่วอเมริกา
รายละเอียดเพิ่มเติม
ใครที่สนใจเรียนที่ Tennessee สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อีเมล enroll@khonthaiamerica.com หรือทาง Inboxhttps://www.facebook.com/KhonThaiAmerica ทางเรามีเจ้าหน้าที่ดูแลนักเรียนอยู่ตามเมืองต่างๆ นะคะเช็ครายชื่อเจ้าหน้าที่ ที่นี่ http://khonthaiamerica.com/services/khon-thai-america-staff/
โดย Ice : KhonThaiAmerica
ที่มา
https://th.wikipedia.org/wiki/%E ... A%E0%B8%8B%E0%B8%B5
https://www.expedia.co.th/Tennessee.d244.Travel
www.tennesseeanytime.org
https://www.dek-d.com/board/view/1244132/
https://en.wikipedia.org/wiki/Tennessee
หน้า:
[1]